ญี่ปุ่น-เวียดนาม บรรลุข้อตกลงทวิภาคี ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงาน และชิป
ญี่ปุ่น-เวียดนาม บรรลุข้อตกลงทวิภาคี หนุนการค้าเสรี ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงาน และการวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ญี่ปุ่นและเวียดนามบรรลุข้อตกลงในการเสริมความร่วมมือการค้าระดับทวิภาคี ตลอดจนค้ำชูระเบียบการค้าเสรีของโลก หลังชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพบปะกับ ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) ผู้นำเวียดนามในระหว่างการเยือนฮานอย โดยทั้งญี่ปุ่นและเวียดนามต่างเป็นประเทศที่เจรจาการค้ากับสหรัฐทั้งคู่
นับเป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของอิชิบะ ก่อนจะเยือนฟิลิปปินส์ต่อในวันที่ 29 เมษายน 2025 ซึ่งการเยือนระดับสูงของญี่ปุ่นเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ถูกยกระดับขึ้นทั่วโลก จากภัยคุกคามมาตรการภาษีของสหรัฐ
อิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังพบปะกับฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ในวันที่ 28 เมษายนว่า เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อย ๆ และผลกระทบในภูมิภาคอาเซียนก็เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เวียดนามพึ่งเป็นเจ้าบ้านต้อนรับการเยือนของสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน และรัฐมนตรีระดับสูงของเกาหลีใต้ ขณะที่ญี่ปุ่นจัดประชุมไตรภาคีกับจีนและเกาหลีใต้
เมื่อต้นเดือนเมษายน รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีแบบตอบโต้กับทางเวียดนามในอัตรา 46% และเก็บญี่ปุ่น 24% ซึ่งอัตราดังกล่าวจะถูกระงับไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เพื่อเปิดพื้นที่เจรจาพหุภาคี แต่จะยังมีการเก็บภาษีขั้นต่ำ 10% กับสินค้านำเข้าทุกประเทศไว้อยู่
อิชิบะกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับจีนว่า “เราจะร่วมมือเพื่อรักษาระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้าง บนพื้นฐานตามหลักนิติธรรม”
เวียดนามเป็นศูนย์กลางการประกอบสำคัญของภาคการผลิตญี่ปุ่น ทั้งฮอนด้า (Honda) แคนนอน (Canon) และพานาโซนิก (Panasonic) ด้วยเงินลงทุนสุทธิ 78,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.62 ล้านล้านบาท) ตามข้อมูลจากกระทรวงคลังเวียดนาม ที่สำคัญกว่านั้น คือ บรรดาธนาคารญี่ปุ่นยังพากันถือหุ้นธนาคารชั้นนำในเวียดนามอีกด้วย
ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในการเสริมความร่วมมือการค้าระดับทวิภาคี ตลอดจนค้ำชูระเบียบการค้าเสรีของโลก ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงาน และการวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์
ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาของข้อตกลง และยังไม่ทรายว่าพ่วงข้อผูกมัดทางการเงินไว้ในสัญญาหรือไม่
นอกจากนี้ โต เลิม (To Lam) ประธานาธิบดีเวียดนามยังเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย เมื่อพบอิชิบะในวันที่ 27 เมษายน ตามการรายงานของสื่อเวียดนาม
ญี่ปุ่นได้มีส่วนร่วมในการศึกษาโครงการก่อสร้างรางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อฮานอยไปยังโฮจิมินห์ ซิตี้ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เงินทุน 67,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.25 ล้านล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ผู้นำทั้งสองประเทศต่างไม่ได้กล่าวถึงโครงการทางรถไฟอย่างชัดเจนในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ ซึ่งทางเวียดนามกล่าวว่ามีแผนที่จะจัดหาเงินทุนส่วนใหญ่สำหรับโครงการนี้เอง
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 28 เมษายน 2568