เปิดขั้นตอนสมัคร SMEs Pro-active ให้เงินสนับสนุน 2 แสนบาทหาตลาดใหม่
ขั้นตอนและเงื่อนไข "ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี" สมัครโครงการ SMEs Pro-active รับเงินสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาท เพื่อลดผลกระทบทางการค้า-ส่งออกไปต่างประเทศขยายตลาดใหม่ เช็กคุณสมบัติที่นี่
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมมือกับ EXIM Bank จัดทำโครงการ SMEs Pro-active DITP X EXIM Empower Financing ออกแพ็กเกจสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ส่งออก เพื่อลดผลกระทบทางการค้าและเร่งส่งออกไปต่างประเทศรวมถึงขยายตลาดใหม่ ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active ระยะเวลา 4 ปี
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าโครงการ SMEs Pro-active ที่ผ่านคุณสมบัติแฃะได้รับการอนุมัติ จะได้วงเงินสนุบสนุนตามกิจกรรมที่เข้าร่วมวงเงินสูงสุด 200,000 บาท
คุณสมบัติผู้สมัคร :
สำหรับคุณสมบัติผู้ที่เข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active มีรายละเอียดดังนี้
(1)เป็นนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
(2)เป็นผู้ประกอบการซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยตามพระราชบัญญัติส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกฏกระทรวงกำหนดลักษณะของ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2562(1) โดยพิจารณาจากเกณฑ์รายได้เป็นหลัก ซึ่งจะแสดงงบการเงินปีล่าสุดตามที่บริษัทนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
(3)มีความประสงค์ดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
(4)เป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ผลิตและ/หรือผู้ส่งออกสินค้าไทยที่มีประสบการณ์การส่งออก
(5)เป็นสมาชิกขององค์กร ดังต่อไปนี้
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยสมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ครอบคลุมสมาชิก 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
* สมาชิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
* สมาชิกของสมาคมที่เป็นสมาชิกของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
* สมาชิกของหอการค้าไทย
* สมาชิกของหอการค้าจังหวัด
* สมาชิกของหอการค้าต่างประเทศ หรือ
รวมถึงเป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สมาพันธ์ สมาคมการค้า หรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าด้านสินค้า และได้ผ่านการรับรองจากสภานั้น
(6)ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในการประกอบธุรกิจ
(7)กรณีนิติบุคคลที่ยังไม่เคยส่งออก แต่มีศักยภาพ สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้โดยต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังนี้
เป็นผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมฯ หรือ หลักสูตรที่โครงการฯ ให้การรับรอง ตามบัญชีรายชื่อหลักสูตรฝึกอบรมที่ได้รับการรับรอง (Qualified Training List: QTL) และ เป็นผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า หรือ กิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีการเจรจาธุรกิจ ซึ่งกรมฯ เป็นผู้จัดอย่างน้อย 1 ครั้ง เช่น
งานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย หรือ งานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ (Thailand Week) หรือ งานแสดงสินค้าสุดยอดแบรนด์ไทย (Top Thai Brands) หรือ คณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ เป็นต้น
เช็กวงเงินสนับสนุน :
ทั้งนี้วงเงินสนับสนุนและจำนวนสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการฯ ของผู้ประกอบการประเภทรายนิติบุคคลรวมแล้วต้องไม่เกินที่กำหนดไว้ ดังนี้
* งานแสดงสินค้า/บริการที่จัดขึ้นในต่างประเทศ งบเงินสนับสนุน 200,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง
* งานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) มีงบเงินสนับสนุน 50,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง
* กิจกรรมสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในต่างประเทศ (Business Opportunities & Partnership) งบเงินสนับสนุน 200,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง
* กิจกรรมส่วเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน งบเงินสนับสนุน 100,000 บาท จำนวน 6 ครั้ง
นอกจากนี้กรณีผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิ์เพิ่ม 2 สิทธิ์/กลุ่มกิจกรรม จาก 6 สิทธิ์/กลุ่มกิจกรรม เป็น 8 สิทธิ์/กลุ่มกิจกรรม ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ
ขั้นตอนการสมัคร :
* ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://smesproactive.ditp.go.th
* ตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วน
* เลือกกิจกรรมตามบัญชีที่ได้รับการรับรองจาก DITP
* ยื่นเอกสารประกอบการสมัคร
* รอผลอนุมัติจากคณะทำงาน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท มีสิทธิ์ขอรับสินเชื่อธนาคารเป็นเงินทุนหมุนเวียนอนุมัติสูงสุด 400,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 12 เดือน กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 11 มิถุนายน 2568