เตรียมพบกับ "เมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์ 2023" จุดนัดพบสำหรับอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะเปิดให้เข้าชมวันที่ 13-15 ก.ย. 66 ที่ไบเทค บางนา

 

กลับมาอีกครั้ง กับงาน "เมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์ 2023" ในวันที่ 13-15 กันยายน 2566 นับเป็นการกลับมาครั้งแรกหลังจากการจัดงานเมื่อปี 2019 และต้องเว้นช่วงไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 การกลับมาครั้งนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่และพร้อมให้การต้อนรับผู้ออกแสดงสินค้ากว่า 800 ราย จาก 40 ประเทศทั่วโลก และ 22 กลุ่มพาวิลเลียนนานาชาติจากทั่วโลก และมีประเทศลัตเวีย โปแลนด์ เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก 

 

งานนี้ถือเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของงาน โดยมีผู้ประกอบการจากไทยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็นการสร้างความคึกคัก พร้อมพิสูจน์ให้เห็นถึงโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระดับโลก อีกทั้งจะได้พบกับพาวิลเลียนไทยถึง 3 พาวิลเลียน อีกทั้งสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์

 

การมีพาวิลเลียนและกลุ่มประเทศนั้น มีความสำคัญอย่างมากในการแสดงออกถึงความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพื่อเป็นเวทีให้แต่ละประเทศได้นำเสนอความก้าวหน้าและนวัตกรรมที่โดดเด่น โดยพาวิลเลียนเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรม และอำนวยความสะดวกในการสร้างเครือข่ายในระดับโลก พร้อมทั้งช่วยให้เกิดการเติบโตและสร้างความก้าวหน้าให้กับชุมชนด้านการดูแลสุขภาพ

 

จุดแข็งของ "เมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์" ในเรื่องของผู้เข้าร่วมงานและโปรไฟล์ระดับนานาชาติ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความเกี่ยวเนื่องกันของประเทศไทยกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความสำคัญของงานแสดงสินค้าในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับการจัดหา การสร้างเครือข่าย และการแลกเปลี่ยนความรู้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 12,000 คน ตลอดระยะเวลา 3 วัน รวมถึงผู้เข้าชมงานแบบกลุ่มจากโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ จากทั่วกรุงเทพ และจังหวัดใกล้เคียง 

 

งานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลกอย่าง MEDICA และ COMPAMED ที่จัดโดยกลุ่มบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ ในประเทศเยอรมนี ได้แบ่งปันความรู้ความชำนาญการและเครือข่ายระดับโลก ซึ่งงานเมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์ ได้มีส่วนร่วมในการจัดงานทุกครั้ง เพื่อเรียนรู้และตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น และรวมถึงความต้องการของประเทศไทยและภูมิภาคต่ออุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ

 

ไฮไลต์ของ "เมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์" :

 

หนึ่งในพาวิลเลียนสำคัญที่เพิ่มเข้ามาในการจัดงานครั้งนี้คือ Medical Manufacturing Pavilion ที่จะเน้นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และส่วนประกอบเทคโนโลยีทางการแพทย์คุณภาพสูง โดยการจัดแสดงที่ครอบคลุมนี้จะยิ่งช่วยเติมเต็มความทุ่มเทของงานต่อนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

 

ท่ามกลางกิจกรรมมากมายที่จะเกิดขึ้นในงาน Start-Up Park คือส่วนที่จะจัดแสดงธุรกิจสตาร์ทอัพในด้านการดูแลสุขภาพกว่า 14 ราย เพื่อเสนอโซลูชันที่พร้อมใช้งาน เทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมดึงดูดใจนักลงทุน ผู้นำในอุตสาหกรรม และผู้ซื้อที่จะเข้ามาเยี่ยมชมงาน

 

The Start-Up Podium ที่จัดขึ้นควบคู่กัน จะนำเสนอการสนทนาและการบรรยายโดยผู้ชำนาญการจากภาคส่วนต่างๆ คลอบคลุมโรงพยาบาล เภสัชกรรม การวิจัยและการพัฒนา หน่วยงานภาครัฐ สมาคมในอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย 

 

การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลและความต้องการที่สูงขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมระบบนิเวศของอุตสาหกรรมสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นมาก ในปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งมียูนิคอร์นเกิดใหม่ในภูมิภาคกว่า 8 ราย โดยปัจจุบันดำเนินการอยู่ทั้งหมด 52 ราย Start-Up Park จึงมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เกิดระบบนิเวศของผู้ประกอบการ กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาด้านชีววิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมด้านการการแพทย์และสุขภาพในไทย ด้วยทุนสนับสนุนและการออกกฎหมายจากภาครัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการที่จะสร้างให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจสตาร์ทอัพ ยิ่งทำให้ภูมิทัศน์ของสตาร์ทอัพในประเทศเกิดความคึกคักและเติบโตขึ้นอย่างเป็นระบบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

 

พร้อมการกลับมาอีกครั้งของ Community Care Pavilion เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ให้ความสำคัญในเรื่องความสูงวัยของประชากร พบกับเวชศาสตร์ป้องกันและการจัดการกับโรคเรื้อรัง นอกจากนี้จะได้พบกับโซลูชันสถานพยาบาล เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการดูแลผู้สูงวัย สถานดูแลผู้สูงวัย และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เนื่องจากการลดลงของจำนวนประชากรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไทยถูกคาดการณ์ว่าจะเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ ภายในปี 2029 ด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรนี้เอง ที่เรียกร้องให้เกิดโซลูชันด้านการแพทย์ที่สูงขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชากรสูงวัย ครอบคลุมตั้งแต่การติดตามดูแลจากระยะไกล การแพทย์ทางไกล ดิจิทัลเทคโนโลยี ระบบอัจฉริยะ นวัตกรรมด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

 

งานสัมมนาที่จัดขึ้นควบคู่กัน :

 

งานสัมมนา WT | Wearable Technologies Conference 2023 ASIA ครั้งที่ 45 ในวันที่ 13 กันยายน 2566 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ Wearable Technologies AG และบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จะช่วยให้ค้นพบศักยภาพของเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ งานจะรวบรวมทั้งระบบนิเวศของเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจโลกของเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ ความก้าวหน้าล่าสุดในอุตสาหกรรม รวมถึงการสนทนาเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อหลักอย่างการดูแลสุขภาพ กีฬา และอุตสาหกรรม 

 

งานอื่นๆ ที่จัดขึ้นพร้อมกัน :

 

* Hospital CIO Forum สำหรับผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจตัดสินใจ และเจ้าหน้าที่ด้านสารสนเทศ (สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น)

* IVAM Forum : เทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดให้เข้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เยี่ยมชมงาน

 

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของงาน เมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์ ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อปี 2023 ด้วยจำนวนผู้ร่วมออกงานเพียง 177 ราย ในวันนี้กลายเป็นงานแสดงสินค้าด้านการดูแลสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทของไทยในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของการเติบโตและการพัฒนานวัตกรรม ด้วยความได้เปรียบในแง่ของภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่จุดยุทธศาสตร์ ความแข็งแกร่งทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสภาพแวดล้อมที่มีความก้าวหน้าด้านกฎระเบียบ ไทยจึงกลายเป็นจุดหมายสำหรับการลงทุน รวมถึงแรงงานที่มีทักษะและความรุ่งเรืองของภาคส่วนการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ไทยจึงคงความเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สำหรับการสร้างความร่วมมือ การลงทุน และการพัฒนานวัตกรรมเรื่อยมา

 

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://www.medicalfair-thailand.com

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 8 กันยายน 2566