"จีน" ตั้งกองทุนชิป 1.7 ล้านล้านบาท หวังยืนหยัดบนลำแข้งตัวเองใน 

"สงครามเซมิคอนดักเตอร์" ที่จีนถูกกีดกันไม่ให้เข้าถึงชิปไฮเทค ดันหุ้นกลุ่มชิปในจีนพุ่งทะลุ 5% รับข่าวดีวันนี้

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวันนี้ (27 พ.ค.67) ว่า รัฐบาลจีนได้ประกาศจัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์ครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาในจีน ในชื่อว่า "กองทุนเพื่อการลงทุนอุตสาหกรรมแผงวงจรรวมแห่งชาติ" เฟสที่ 3 หรือ Big Fund III โดยมีวงเงินสนับสนุน 3.44 แสนล้านหยวน (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) เพื่อมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมชิปในประเทศ และเน้นการพึ่งพาตนเองให้มากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดโลกที่กำลังร้อนระอุ

 

กองทุนดังกล่าวซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พ.ค.67 ที่ผ่านมา จะมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีรัฐวิสาหกิจกับธนาคารหลายแห่งของทางการจีนรวมลงทุนด้วย เช่น ธนาคาร ICBC รวมถึงรัฐวิสาหกิจในเซินเจิ้นและปักกิ่ง 

 

ที่ผ่านมารัฐบาลท้องถิ่นเซินเจิ้นได้สนับสนุนบริษัทผลิตชิปหลายแห่งในมณฑลกวางตุ้ง ท่ามกลางความพยายามช่วยเหลือบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ หลังจากที่ถูกรัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการคว่ำบาตรมาหลายปี โดยตัดหัวเว่ย และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องไม่ให้นำเข้าชิป และอุปกรณ์การผลิตชิปจากสหรัฐ และประเทศพันธมิตร 

 

ทั้งนี้ บรรดาประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจที่นำโดยสหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู) ได้จัดตั้งกองทุนหรือดำเนินนโยบายอัดฉีดงบประมาณสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปไฮเทคไปแล้วถึงเกือบ 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (เกือบ 3 ล้านล้านบาท) ซึ่งยิ่งสะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดกับฝั่งจีนในสงครามเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

 

ข่าวนี้ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ในตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในการซื้อขายวันนี้ โดยดัชนี SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในจีนปรับตัวขึ้นถึง 5.4% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ขณะที่หุ้นของบริษัท Hua Hong Semiconductor ปรับตัวขึ้นกว่า 6%

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 27 พฤษภาคม 2567