"ฮ่องกง" โตแรง เผยปี’67 นักท่องเที่ยวไทยพุ่งทะลุ 5 แสน รั้งอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศปีนี้เดินหน้ายกระดับท่องเที่ยว พร้อมชูแคมเปญระดับโลก-เมกะอีเวนต์-นวัตกรรมการท่องเที่ยว เจาะนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม หวังสร้างจุดขายและประสบการณ์ใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

 

แหล่งข่าวจากการท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board-HKTB) สำนักงานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ฮ่องกงกลับมาผงาดในเวทีการท่องเที่ยวโลกอีกครั้ง โดยมีสถิตินักท่องเที่ยวที่สะท้อนภาพการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีบทบาทสำคัญและมีศักยภาพสูง

 

 

โดยข้อมูลจากการท่องเที่ยวฮ่องกงระบุว่า ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าฮ่องกงรวมทั้งสิ้น 521,645 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 18% สะท้อนถึงการฟื้นคืนระดับใกล้เคียงกับก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

นอกจากนี้ สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ ศักยภาพด้านการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่ 8,000 ดอลลาร์ฮ่องกง/คน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันรายได้จากภาคการท่องเที่ยวของฮ่องกงให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

 

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า สำหรับ 5 ตลาดต้นทางนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าฮ่องกงในปี 2567 สูงสุด ได้แก่ จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดหลักดั้งเดิมที่มีศักยภาพในการเดินทางระหว่างประเทศสูง ขณะที่ประเทศไทยยังคงรักษาตำแหน่งตลาดต้นทางขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากฟิลิปปินส์ ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับที่ดีจากชาวไทยที่มีต่อสินค้าและประสบการณ์การท่องเที่ยวในฮ่องกง

 

“นักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวฮ่องกง ทั้งในรูปแบบการท่องเที่ยวอิสระและทัวร์แบบกลุ่ม โดยมีแรงดึงดูดจากแหล่งช็อปปิ้งชื่อดัง แหล่งอาหารระดับโลก สวนสนุกและกิจกรรมสำหรับครอบครัว ไปจนถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัยที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง”

 

สำหรับในปี 2568 นี้ การท่องเที่ยวฮ่องกงมีแผนยกระดับกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยว ด้วยการเดินหน้าจัดเมกะอีเวนต์ระดับนานาชาติ ควบคู่ไปกับการเปิดตัวแคมเปญประชาสัมพันธ์ระดับโลก ภายใต้แนวคิด “เปิดประสบการณ์สดใหม่ให้ตลอดทั้งปี” โดยจะเน้นการสร้างจุดขายใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเน้นเป็นการเดินทางเพื่อสัมผัสวัฒนธรรม นวัตกรรม และเอกลักษณ์ความเป็นฮ่องกงยุคใหม่

 

 

ขณะเดียวกัน ยังมีการพัฒนาตลาดเฉพาะกลุ่มและภาคส่วนที่มีศักยภาพสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (MICE) และการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงทั่วโลก

 

ทั้งนี้ เพื่อให้กลยุทธ์เหล่านี้สัมฤทธิ์ผล การท่องเที่ยวฮ่องกงได้เตรียมเปิดตัวเครื่องมือดิจิทัลและแพลตฟอร์มสนับสนุนการท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วยสร้างความสะดวกสบายแก่ทั้งนักท่องเที่ยวและภาคธุรกิจ พร้อมผลักดันให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น ชาญฉลาด และน่าประทับใจ ตั้งแต่ก่อนเดินทางจนถึงหลังกลับบ้าน

 

แหล่งข่าวรายเดิมยังกล่าวอีกว่า ความสำเร็จของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฮ่องกงในปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับภาคบริการภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสใหม่ของภาคธุรกิจไทย ทั้งในด้านการเดินทาง การค้า การร่วมมือด้านโปรแกรมทัวร์ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม

 

 

โดยการท่องเที่ยวฮ่องกงยังแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจการท่องเที่ยวในไทยอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเอเยนซี่ทัวร์ แพลตฟอร์มการจองออนไลน์ สายการบิน และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวและพัฒนาบริการร่วมกันอย่างยั่งยืน เพื่อให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอีกครั้ง

 

“ในปี 2024 ฮ่องกงไม่ได้หยุดแค่การฟื้นตัว แต่กำลังเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลกในยุคใหม่ ด้วยพลังของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับทุกภาคส่วน” แหล่งข่าวกล่าว และว่า ดังนั้น ปี 2568 นี้จึงเป็นปีของการเปิดตัวใหม่ของฮ่องกง ที่พร้อมนำเสนอความสดใหม่ ความหลากหลาย และประสบการณ์ที่ยกระดับให้ทุกการเดินทางไม่ธรรมดาอีกต่อไป

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 27 มิถุนายน 2568