อียูวางแผนกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสหภาพยุโรปและเม็กซิโกเป็น 30%

 

บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า สหภาพยุโรปกำลังเตรียมยกระดับความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากมีภัยคุกคามใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายต่อสหภาพยุโรปและประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของสหรัฐฯ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดที่เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก

 

แหล่งข่าวซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า การติดต่อสื่อสารกับประเทศต่างๆ รวมถึงแคนาดาและญี่ปุ่น อาจรวมถึงความเป็นไปได้ในการประสานงาน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่การเจรจาระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ยังคงยืดเยื้อและยังคงติดขัดในหลายประเด็น รวมถึงภาษีรถยนต์และอัตราภาษีศุลกากรสำหรับภาคเกษตรกรรม

 

ประเทศสมาชิกได้รับแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานะของการเจรจาเมื่อวันอาทิตย์

 

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรปจะขยายระยะเวลาการระงับมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐฯ ออกไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อให้การเจรจาสามารถดำเนินต่อไปได้ มาตรการเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อตอบโต้ภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่ทรัมป์กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะถูกระงับเป็นครั้งแรก และจะกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งในเที่ยงคืนวันอังคาร

 

“ในขณะเดียวกัน เราจะยังคงเตรียมมาตรการตอบโต้เพิ่มเติมเพื่อให้เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่” ฟอน เดอร์ ไลเอิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันอาทิตย์ พร้อมกับย้ำถึงความต้องการของสหภาพยุโรปที่ต้องการ “ทางออกที่เจรจาต่อรองได้”

 

รายการมาตรการตอบโต้ในปัจจุบันจะครอบคลุมสินค้าจากสหรัฐฯ ประมาณ 21,000 ล้านยูโร (24,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ขณะที่สหภาพยุโรปมีมาตรการตอบโต้อีกชุดหนึ่งที่เตรียมไว้ประมาณ 72,000 ล้านยูโร รวมถึงมาตรการควบคุมการส่งออกบางส่วน ซึ่งจะนำเสนอต่อประเทศสมาชิกอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์ แหล่งข่าวกล่าว

 

ผู้นำสหภาพยุโรปเตรียมพร้อมตอบโต้ทรัมป์ :

 

ฟอน เดอร์ ไลเอิน ยังกล่าวอีกว่า เครื่องมือต่อต้านการบีบบังคับของสหภาพยุโรป( Anti-coerecion Instrument: ACI) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการค้าที่ทรงพลังที่สุดของสหภาพยุโรป จะไม่ถูกนำมาใช้ในขณะนี้ “ACI ถูกสร้างขึ้นสำหรับสถานการณ์พิเศษ” เธอกล่าว “แต่เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น”

 

ในการโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่ตอบโต้การประกาศของทรัมป์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเรียกร้องให้เร่งเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการตอบโต้ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งรวมถึงเครื่องมือต่อต้านการบีบบังคับ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 1 สิงหาคม

 

เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟรีดริช แมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า ภาษีนำเข้า 30% จะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป “ถึงแกนกลาง” หากไม่สามารถหาทางออกในการเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าได้

 

แมร์ซกล่าวว่าเขากำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำประเทศอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าภาษีนำเข้าในระดับดังกล่าวจะไม่ถูกบังคับใช้ “สิ่งนี้ต้องอาศัยสองสิ่ง คือ ความสามัคคีในสหภาพยุโรปและช่องทางการสื่อสารที่ดีกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ” ผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยมกล่าวในการสัมภาษณ์กับ ARD สื่อใหญ่ในเยอรมนี

 

ยุโรปหวังสหรัฐเก็บภาษีในอัตรา 10% :

 

ทรัมป์ได้ส่งจดหมายไปยังคู่ค้าหลายราย เพื่อปรับระดับภาษีที่เสนอในเดือนเมษายน และเชิญชวนให้พวกเขาเข้าร่วมการเจรจาเพิ่มเติม ในจดหมายที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เตือนสหภาพยุโรปว่าอาจต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า 30% ตั้งแต่เดือนหน้า หากไม่สามารถเจรจาเงื่อนไขที่ดีกว่าได้

 

สหภาพยุโรปพยายามสรุปข้อตกลงเบื้องต้นกับสหรัฐฯ เพื่อสกัดกั้นภาษีที่สูงขึ้น แต่จดหมายของทรัมป์กลับทำลายความหวังล่าสุดในกรุงบรัสเซลกับโอกาสในการบรรลุข้อตกลงในนาทีสุดท้าย

 

ประเทศอื่นๆ เช่น เม็กซิโก ซึ่งกำลังเจรจากับสหรัฐฯ อยู่เช่นกัน ต่างประหลาดใจที่ได้รับจดหมายในลักษณะเดียวกัน

 

สหภาพยุโรปกำลังเรียกร้องให้มีภาษีนำเข้าไม่เกิน 10% สำหรับสินค้าส่งออกทางการเกษตร กลไกการชดเชยที่ผู้ผลิตรถยนต์บางรายผลักดันเพื่อผ่อนปรนภาษีให้กับบริษัทต่างๆ เพื่อแลกกับการลงทุนในสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับการพิจารณาในขณะนี้ ท่ามกลางความกังวลจากสหภาพยุโรปว่าบริษัทต่างๆอาจย้ายฐานการผลิตข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก

 

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า คณะผู้แทนเจรจาของสหภาพยุโรปกำลังมุ่งเน้นไปที่การเจรจาเกี่ยวกับภาษีนำเข้ารถยนต์แทน

 

แหล่งข่าวกล่าวว่า คาดว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปจะดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกำลังหารือเกี่ยวกับข้อตกลงเบื้องต้นที่จะทำให้สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของสหภาพยุโรปถูกจัดเก็บภาษีนำเข้า 10% โดยมีการยกเว้นภาษีสำหรับบางอุตสาหกรรม เช่น การบินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังเรียกร้องให้ลดอัตราภาษีนำเข้าสุราและไวน์ รวมถึงการลดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 50% ที่ทรัมป์กำหนดผ่านโควตา 

 

สหรัฐฯ ได้เสนออัตราภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรอียู 17% ข้อตกลงเบื้องต้น จะครอบคลุมถึงอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีนำเข้า ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และการจัดซื้อเชิงกลยุทธ์

นอกจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าทั่วไปที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมแล้ว ทรัมป์ยังได้เพิ่มการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน 25% และเพิ่มการจัดเก็บภาษีนำเข้าโลหะเป็นสองเท่า 

 

ประธานาธิบดีกำลังดำเนินการเพื่อนำการจัดเก็บภาษีเฉพาะสำหรับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงยาและเซมิคอนดักเตอร์ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้ประกาศจัดเก็บภาษีทองแดง 50%

ข้อตกลงใดๆ ในขั้นตอนนี้จะไม่คุ้มครองสหภาพยุโรปจากมาตรการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมโดยอัตโนมัติ แต่สหภาพยุโรปยังคงแสวงหาข้อผ่อนปรนพิเศษในอุตสาหกรรมที่อาจได้รับผลกระทบ

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 14 กรกฏาคม 2568