อิมแพ็ค เมืองทองธานี เดินหน้าขยายธุรกิจรอบทิศ ลุยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บนพื้นที่ริมทะเลสาบ 300,000 ตร.ม. ผุดโรงแรม-ช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่รองรับผู้เข้าร่วมงานไมซ์-นักท่องเที่ยวในอนาคต เผยทุ่มงบฯลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ผนึกเชนดัง “ฮิลตัน-ฮิลตัน การ์เด้นท์ อินน์” ขยายห้องพักเพิ่ม คาดเปิดให้บริการต้นปี 2571 พร้อมตั้งเป้าปี 2573 มีรายได้เติบโต 9,000 ล้านบาท

 

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอิมแพ็ค เมืององธานี กล่าวถึงทิศทางบริษัทในเครืออิมแพ็คจากนี้ไปว่า บริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทควบคู่กับการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางไมซ์และอีเวนต์ที่สำคัญในภูมิภาค

 

โดยมีแผนจะพัฒนาพื้นที่บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี รวม 200,000-300,000 ตารางเมตร ซึ่งติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย สถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) ในรูปแบบของโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยโรงแรม จำนวน 2 แห่ง และช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่

 

ทุ่ม 3 พันล.เปิด 2 โรงแรมใหม่ :

 

นายพอลล์กล่าวว่า ในส่วนของโรงแรมเตรียมจะสร้างใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมระดับ 5 ดาว ภายใต้แบรนด์ฮิลตัน จำนวน 300 ห้อง และโรงแรมระดับ 4 ดาว ภายใต้แบรนด์ฮิลตัน การ์เด้นท์ อินน์ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินการลงทุนจะมาจากบริษัทแม่ คือ บมจ.บางกอกแลนด์ และการขายโรงแรมในเครืออิมแพ็ค จำนวน 2 แห่ง คือ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค และโรงแรมไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค รวม 1,000 ห้อง เข้าอิมแพ็ค โกรท รีท ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

 

โดยโรงแรมแห่งใหม่นี้คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนมีนาคมหรือเมษายนปี 2569 และจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2570 หรือต้นปี 2571 รวมถึงมีแผนจะร่วมมือกับเครือโรงแรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 8 ปีข้างหน้าจะมีโรงแรมในพื้นที่ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี รวม 5,000 ห้อง

 

“ปัจจุบันในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจากอิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังมีโรงแรมห้องพักค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับการจัดงานขนาดใหญ่และจำนวนคนเข้าร่วมงานเอ็กซิบิชั่น คอนเสิร์ตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการขยายจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้น จะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ารองรับผู้เข้าร่วมงานไมซ์ นักท่องเที่ยวในอนาคต และทำให้อิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถรองรับงานประชุมสัมมนา และเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน” นายพอลล์กล่าว

 

ส่วนโครงการช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่นั้น นายพอลล์กล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวร่วมกับโรงแรมเพื่อทำสวนน้ำ และทำให้อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยว พร้อม ๆ กับรองรับการเติบโตของลูกค้ากลุ่มไมซ์ด้วย

 

รีโนเวตใหญ่ “อิมแพ็ค อารีน่า” :

 

สำหรับธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่จัดงาน บริษัทได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ “ไลฟ์ เนชั่น” โดยให้เช่าอาคารและที่ดินอิมแพ็ค อารีน่า ระยะเวลา 20 ปี คิดเป็นมูลค่ารวมตามสัญญากว่า 4,617 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ “บริษัท อิมแพ็ค ไลฟ์ เนชั่น” โดยเตรียมจะรีโนเวตอิมแพ็ค อารีน่า ในรอบ 26 ปี ซึ่งจะใช้วิธีการปิดบางส่วน ปรับปรุงพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันมียอดการจองพื้นที่สำหรับการจัดคอนเสิร์ตยาว 6-9 เดือนข้างหน้า

 

“การรีโนเวตอิมแพ็ค อารีน่า ครั้งนี้จะทยอยปิดปรับปรุงบางส่วน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาทั้งหมด 18 เดือน จะเริ่มได้ต้นปี 2569 ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ของผู้ชมให้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการรายได้ ช่วยลดต้นทุนแก่ผู้จัดงาน เพื่อให้ที่นี่สามารถรองรับการจัดงานคอนเสิร์ตได้มากขึ้น”

 

ปรับธันเดอร์โดมรับคอนเสิร์ต :

 

นอกจากนี้ อีก 2-3 ปีข้างหน้าบริษัท ยังมีแผนปรับพื้นที่ในส่วนของธันเดอร์โดม และสนามฟุตบอล (ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม) ที่อิมแพ็คเคยให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เช่าเป็นเวลา 30 ปีจะหมดสัญญาลง และกลับมาเป็นของอิมแพ็ค ซึ่งต่อไปมีแผนจะรื้อพื้นที่ใหม่หมด เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ในการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่าง ๆ ทั้งในแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ สามารถรองรับได้ 40,000-50,000 คน

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีอาคารอื่น ๆ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ที่มีพื้นที่ถึง 60,000 ตารางเมตร รองรับผู้เข้าร่วมงานได้ 45,000-50,000 คน กลายเป็นอาคารจัดอีเวนต์บันเทิงในร่มขนาดใหญ่ หรืออาคาร 5-12 สามารถจัดอีเวนต์บันเทิงในร่มได้เช่นกัน แบ่งย่อยได้ถึง 8 อาคาร ปรับเลือกการใช้งานได้ตามความเหมาะสม รองรับผู้ร่วมงานได้เฉลี่ย 3,500-4,500 คนต่ออาคาร

 

โดยในส่วนนี้มีแผนพัฒนาห้องแต่งตัวบริเวณอาคาร 5-6 ใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนอีเวนต์ด้านความบันเทิงในอนาคต รวมถึงพื้นที่กลางแจ้ง ริมทะเลสาบเมืองทองธานีกว่า 150,000 ตารางเมตร เหมาะสำหรับการจัดเทศกาลดนตรี เฟสติวัลขนาดใหญ่

 

ตั้งเป้าปี’73 รายได้ 9 พันล้าน :

 

สำหรับภาพรวมครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2568) มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ยอดจัดงานรวมอยู่ที่ 341 งาน แบ่งเป็นประชุม สัมมนา 167 งาน อินเซนทีฟ 16 งาน ประชุมขนาดใหญ่ (Convention) 5 งาน คอนเสิร์ตไทย-คอนเสิร์ตต่างประเทศ 41 งาน เอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติ 33 งาน งานแต่งงาน 58 งาน และงานเลี้ยงสังสรรค์ 21 งาน ขณะที่จำนวนการจองพื้นที่ช่วงครึ่งปีหลัง (กรกฎาคม-ธันวาคม 2568) มียอดจองกว่า 300 งาน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

“ปัจจุบันโครงสร้างรายได้หลักของบริษัทมาจาก 4 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่จัดงาน ธุรกิจรับจ้างจัดงานครบวงจร ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม โดยปีนี้เรามีการขยับธุรกิจหลาย ๆ อย่าง ทั้งการเพิ่มโรงแรม จำนวนอีเวนต์ และธุรกิจร้านอาหารที่เตรียมจะเปิดร้านอาหารจีนแบรนด์ใหม่ ชื่อ Xian Yuan ที่ดุสิต เซ็นเตอร์ พาร์ค ชั้น 5 ช่วงปลายปีนี้” นายพอลล์กล่าวและว่า

 

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจในเครืออิมแพ็คในปี 2573 มีรายได้เติบโตถึง 9,000 ล้านบาทตามแผน ส่วนปี 2568 คาดว่าเครืออิมแพ็คจะมีรายได้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 9 สิงหาคม 2568