อุตสาหกรรมเยอรมันเผชิญวิกฤติรุนแรง สูญงานกว่า 2.45 แสนตำแหน่งตั้งแต่ปี 2019 รายได้หดต่อเนื่อง ส่งออกสหรัฐฯ และจีนร่วงหนัก ค่ายรถยนต์เจอศึกใหญ่ทั้งการแข่งขันเอเชียและภาษีนำเข้าสหรัฐฯ

 

อุตสาหกรรมเยอรมนีเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ล่าสุดการศึกษาของ EY เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2019 ภาคอุตสาหกรรมได้สูญเสียตำแหน่งงานไปแล้วเกือบ 245,500 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นการหดตัวของกำลังแรงงาน 4.3% โดยในไตรมาสสองของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว การจ้างงานลดลง 2.1% เหลือพนักงาน 5.43 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงการทรุดตัวที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

ข้อมูลยังระบุว่า รายได้รวมของบริษัทอุตสาหกรรมเยอรมนีอยู่ที่ 533,000 ล้านยูโรในไตรมาสสอง ลดลง 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากไตรมาสแรกก็หดตัวมาแล้ว 0.2% นับเป็นสัญญาณต่อเนื่องของการชะลอตัวที่ยากจะหลีกเลี่ยง

 

หนึ่งในภาคส่วนที่เจ็บหนักที่สุดคืออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีการจ้างงานลดลง 6.7% ในไตรมาสสอง เท่ากับสูญเสียงานไปกว่า 51,500 ตำแหน่งภายในปีเดียว ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้งโฟล์คสวาเกน เมอร์เซเดส และคอนติเนนทอล ต่างประกาศมาตรการลดพนักงาน เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้ผลิตในเอเชีย รวมถึงค่าใช้จ่ายสูงในการปรับตัวสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และแรงกดดันจากภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ บังคับใช้

 

แม้สหรัฐฯ จะยังเป็นตลาดต่างประเทศที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมเยอรมนี แต่การส่งออกไปยังตลาดนี้ในไตรมาสสองก็ลดลงถึง 10% ขณะที่การส่งออกไปจีน ซึ่งเป็นอีกตลาดใหญ่ ก็ตกลงถึง 14% ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการผลิตที่กำลังเผชิญปัญหาอย่างหนัก

 

ภาพรวมทั้งหมดชี้ชัดว่าอุตสาหกรรมเยอรมนีกำลังอยู่ในช่วงถดถอยที่รุนแรงขึ้น ไม่เพียงแต่เผชิญความท้าทายจากการแข่งขันระดับโลกและการปรับตัวด้านเทคโนโลยี แต่ยังต้องรับผลกระทบจากแรงกดดันด้านการค้าระหว่างประเทศที่ยิ่งทำให้การฟื้นตัวยากลำบากกว่าเดิม

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 27 สิงหาคม 2568