อุตสาหกรรมเกมของประเทศไทยในปี 2025 นั้นมีความก้าวกระโดดอย่างมาก เนื่องจากความมุ่งมั่นของผู้คนในอุตสาหกรรมที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยคือศูนย์กลางการผลิตเกมที่กำลังเติบโตอย่างแท้จริง อีกทั้งการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในประเทศพันมิตรอย่างเป็นทางการ 

 

และได้จัดตั้ง Thailand Pavillion และได้จัดแสดงงานของสตูดิโอมากมาย อาทิ สตูดิโออินดี้อย่าง Bit Egg และ Fourteen Rain Studio ไปจนถึงสตูดิโอชื่อดังอย่าง Yggdrazil Group ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาภายในงานได้ลองเล่นเกมไทย และยังได้ลิ้มลองอาหารไทยหลากหลายชนิด ทำให้เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นการสร้างสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างยุโรปและเอเชีย

       

โดยในปี 2566 อีสปอร์ตของไทยมีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2567 มีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าภายในปี 2576 อุตสาหกรรมดังกล่าว จะมีมูลค่าสูงถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 8.28 ทำให้ปัจจุบันอีสปอร์ตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันระดับชาติและลีกอาชีพ

       

การที่อุตสาหกรรมเกมของไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเข้มแข็ง เพื่อรองรับการเติบโตของเกมบนมือถือและเกมบนคลาวด์ ขณะเดียวกัน สตูดิโอของไทยจะต้องขยายขนาดเพื่อแข่งขันกับตลาดขนาดที่ใหญ่กว่าอย่างอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และจีน แต่ก็ต้องมั่นใจว่า “อัตลักษณ์ไทย” ในเกมจะต้องได้รับการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ลูกเล่น

             

อย่างไรก็ดี การที่ประเทศไทยเปลี่ยนจากการเป็นผู้เข้าร่วมงานในอุตสาหกรรมเกมระดับโลก มาเป็นหนึ่งในเจ้าภาพระดับภูมิภาค สำหรับแฟนเกม อาจจะหมายถึงการเข้าถึงงานระดับโลกได้มากขึ้น แต่สำหรับนักพัฒนานั้น หมายถึงการระดมทุนและการเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากกว่าเดิม และตอกย้ำว่า วงการเกมเป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งของประเทศไทย

 

ที่มา globthailand

วันที่ 14 ตุลาคม 2568