KEY POINTS :

 

* คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ

* การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการดำรงตำแหน่งแทนนายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ประธานกรรมการคนเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์

* มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 ธันวาคม 2568 มีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอแต่งตั้ง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ แทน นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายโสภณ ซารัมย์) ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยแล้ว

 

สำหรับ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ถือเป็นนักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการเงินและตลาดทุน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รวมทั้งเป็นประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) 

 

ก่อนหน้านี้ ดร.กอบศักดิ์ เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2560–2562 และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

 

ส่วนความสำคัญของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ถือเป็นหน่วยงานในสังกัดของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทรัพยากรน้ำ รวมไปถึงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเป็นระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ให้กับหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ 

 

รวมทั้งมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสารสนเทศทรัพยากรน้ำ, ระบบตรวจวัด, ระบบแบบจำลอง และระบบสนับสนุนการตัดสินใจ พร้อมกับวิเคราะห์และคาดการณ์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและภูมิอากาศ เพื่อติดตาม เฝ้าระวัง และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ ทั้งในภาวะปกติและวิกฤต และสร้างเครือข่ายส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศและต่างประเทศ

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 23 ธันวาคม 2568