"ศุภจี" ยันยังเดินหน้าเจรจาภาษีทรัมป์อยู่ กรมเจรจาฯชี้ขณะนี้อยู่ขั้นเจรจาเทคนิค โดยเฉพาะประเด็นเรื่องมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี แต่ที่สุดแล้ว ต้องรอรัฐบาลใหม่-รัฐสภาไฟเขียวถึงจะลงนามข้อตกลงได้

 

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในช่วงค่ำวันที่ 12 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้รับโทรศัพท์จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการสนทนา ได้ติดตามความคืบหน้าการเจรจาด้านการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ ซึ่งทางสหรัฐพร้อมจะเร่งประสานให้เกิดการเจรจา และได้มีโอกาสหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย และชี้แจงถึงผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายจากการเดินหน้าเจรจาการค้า

 

พร้อมทั้งขอให้สหรัฐพิจารณาแยกประเด็นด้านความมั่นคงออกจากประเด็นทางการค้า นอกจากนี้ เอกชนหลายฝ่ายต้องการให้ไทยและสหรัฐเร่งสรุปผลการเจรจาการค้าให้ได้โดยเร็ว เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งด้านการค้าและการลงทุน ทั้งบริษัทสหรัฐที่ทำค้าขายและลงทุนในประเทศไทย รวมถึงผู้บริโภคของสหรัฐที่จะได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพบนพื้นฐานราคาที่เหมาะสมด้วย ดังนั้น การเร่งเจรจาการค้าให้ได้ข้อสรุปจึงเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่ายคาดหวังที่จะเห็นผลสำเร็จโดยเร็ว

 

ด้านนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้การเจรจาทางเทคนิคระหว่างไทยและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นที่เจรจาทางเทคนิคกันนั้น จะคล้ายกับการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ทั่วไป ซึ่งมีทั้งการเปิดเสรีการค้าสินค้า บริการ และการลงทุน

 

รวมทั้งยังเป็นประเด็นที่สหรัฐเรียกร้องให้ไทยดำเนินการเพื่อลดอุปสรรคทางการค้า การลงทุน ตามที่สหรัฐเสนอไว้ในรายงานประเมินการค้าสหรัฐจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะการแก้ไขมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี ซึ่งสหรัฐมองว่า เป็นประเด็นที่กระทบต่อการค้า และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

 

“ประเด็นที่อยู่ระหว่างการเจรจากัน เช่น มาตรการสุขอนามัย กรณีที่สหรัฐเรียกร้องให้ไทยเปิดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐ ที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง แต่ไทยห้ามใช้โดยเด็ดขาด ในส่วนนี้กรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างดูรายละเอียดในหลักการ ซึ่งจะต้องดูแลไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน”

 

ส่วนความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎถิ่นกำเนิดสินค้า จะต้องมีสัดส่วน Local Content ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลจีน โดยคาดว่า สหรัฐน่าจะรอผลสรุปในส่วนนี้ก่อน และน่าจะใช้กติกาเดียวกันกับทุกประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยจะพยายามสรุปการเจรจาทางเทคนิคให้เร็วที่สุด แต่ขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ แม้จะสรุปผลการเจรจาแล้ว ก็ยังต้องรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะจะต้องนำผลการเจรจาทั้งหมดเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ และเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบ ก่อนที่ไทยจะลงนามความตกลงกับสหรัฐได้

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 24 ธันวาคม 2568