ปีหน้า "ญี่ปุ่น" เพิ่มงบสนับสนุนด้าน "ชิป-เอไอ" 4 เท่า รวมกว่า 2 แสนล้านบาท หวังเร่งเครื่องสร้างความมั่นคงห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี

 

บลูมเบิร์กรายงานว่า ญี่ปุ่น เตรียมเพิ่มงบสนับสนุนการ พัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เกือบ 4 เท่า เป็น 1.23 ล้านล้านเยน (เกือบ 2.5 แสนล้านบาท) สำหรับ ปีงบประมาณหน้าที่จะเริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2026 ตามแผนงบประมาณของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม

 

งบประมาณรวมของกระทรวงเศรษฐกิจฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงราว 50% ไปอยู่ที่ 3.07 ล้านล้านเยน (ราว 6 แสนล้านบาท) โดยส่วนใหญ่เป็นผลจาก การเพิ่มงบด้านชิปและAI หลังจากคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ลงมติผ่านความเห็นชอบในวันนี้ (26 ธ.ค.) ซึ่งร่างงบประมาณฉบับนี้จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในช่วงต้นปีหน้า

 

การเพิ่ม งบประมาณด้านชิปและเอไอ ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ญี่ปุ่นพยายามเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีขั้นแนวหน้า ในขณะที่ "สหรัฐ" และ "จีน" เดินหน้าแข่งขันกันอย่างเข้มข้น แม้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกจะผ่อนคลายลงบ้าง แต่ความสัมพันธ์ยังคงเปราะบาง ส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องเร่งสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีสำคัญ

 

ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2026 เป็นต้นไป กระทรวงเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแผนจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมด้านชิปและ AI ผ่าน งบประมาณประจำ ปีเป็นหลัก แทนการพึ่งพางบประมาณพิเศษระหว่างปีหรืองบเฉพาะกิจ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความต่อเนื่องและเสถียรภาพของเงินสนับสนุน ให้กับอุตสาหกรรมเหล่านี้

 

ทางกระทรวงตั้งงบประมาณสำหรับเซมิคอนดักเตอร์เอาไว้ 150,000 ล้านเยน เพื่อสนับสนุนบริษัทชิปที่รัฐหนุนหลังอย่าง "Rapidus Corp." ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนสะสมจากภาครัฐในโครงการนี้เพิ่มเป็น 250,000 ล้านเยน

 

ส่วนทางด้าน "AI" มีการจัดสรรงบ 387,300 ล้านเยน สำหรับการพัฒนาโมเดล AI พื้นฐานภายในประเทศ การเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล และการพัฒนา “Physical AI” หรือการนำ AI ไปควบคุมหุ่นยนต์และเครื่องจักร

 

ทางกระทรวงฯ ยังกันงบ 5,000 ล้านเยน เพื่อเสริมความมั่นคงในการจัดหาทรัพยากรแร่สำคัญ รวมถึง "แร่หายาก" (แรร์เอิร์ธ) ขณะที่ด้านการลดคาร์บอนมีการจัดสรร 122,000 ล้านเยน สำหรับโครงการต่างๆ รวมถึงการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นถัดไป

 

นอกจากนี้ รัฐบาลจะออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 1.78 ล้านล้านเยน (ราว 3.5 แสนล้านบาท) เพื่อสนับสนุนบทบาทของ Nippon Export and Investment Insurance ในการค้ำประกันและสนับสนุนการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในสหรัฐ ภายใต้กรอบข้อตกลงทางการค้าระหว่างสองประเทศด้วย

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 26 ธันวาคม 2568