เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2366 รัฐบาลมาเลเซียประกาศเปิดตัวแผนแม่บทอุตสาหกรรมฮาลาล ค.ศ. 2030 (Halal Industry Master Plan 2030 หรือ HIMP 2030) ภายใต้หัวข้อ Prominent, Visible and Globalised Halal Malaysia โดยมี Dato’ Seri Dr Ahmad Zahid Hamidi รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาชนบทและภูมิภาค (และประธาน Malaysian Halal Development Council – MHDC) เป็นประธานเปิดงาน 

 

ในปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสินค้าฮาลาลของ มาเลเซีย เติบโตถึงร้อยละ 63.8 (ที่ 59.46 พันล้านริงกิต) ด้วยแรงสนับสนุนจากกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (คิดเป็นร้อยละ 46.8 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ซึ่ง HIMP 2030 จะช่วยส่งเสริมบทบาทนําในอุตสาหกรรมฮาลาลของมาเลเซียในระดับโลก ซึ่งในขณะนี้มาเลเซีย ได้รับการยอมรับเป็นประเทศผู้นำเศรษฐกิจฮาลาลเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน โดย HIMP 2030 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ 

 

(1) กระตุ้นการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุมของอุตสาหกรรมฮาลาลของมาเลเซีย

 

(2) พัฒนาระบบนิเวศที่มีพลวัตอุตสาหกรรมฮาลาลสําหรับรองรับสินค้าและบริการฮาลาลที่มากขึ้น 

 

(3) สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของมาเลเซีย และครอบคลุม 7 สาขายุทธศาสตร์ ได้แก่ 3.1) ส่งเสริมนโยบายและกฎหมายที่เป็นมิตรต่อกลุ่มสินค้าและบริการฮาลาล

3.2) สร้างตลาดใหม่และขยายตลาดให้สินค้า และบริการฮาลาลของมาเลเซีย 

3.3) ขยายฐานผู้เชี่ยวชาญด้านฮาลาลเพื่อตอบสนองความต้องการของโลก 

3.4) ส่งเสริม คุณภาพและการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการ 

3.5) เสริมสร้างการเป็นผู้นําทางความคิด 

3.6) ผลิต home-grown halal champions มากขึ้น และ 

3.7) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของกลุ่มภูมิบุตรที่มีความสามารถ ในการแข่งขันในอุตสาหกรรมฮาลาล 

 

Dato’ Seri Dr Ahmad Zahid Hamidi รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า การเปิดตัว HIMP 2030 เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมในขณะที่ความต้องการสินค้าและบริการฮาลาลของโลกกําลังเติบโต ทำให้มาเลเซียมีข้อได้เปรียบในด้านระบบนิเวศอุตสาหกรรมฮาลาล ที่เป็นที่ยอมรับระดับโลกและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ 

 

Tengku Datuk Seri Utama Zafrul Aziz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ (MITI) คาดหวังว่าอุตสาหกรรมฮาลาล จะมีบทบาทสําคัญในการเพิ่มมูลค่าการค้ามาเลเซียในปีนี้ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าของอุตสาหกรรมฮาลาลเป็น 113.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน ค.ศ. 2030 หรือร้อยละ 4.1 ของ GDP ภายในปี ค.ศ. 2025 และกล่าวย้ำถึงการสนับสนุนของ MITI ต่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมฮาลาลของมาเลเซีย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs 

 

นอกจากนี้ ในปี 2566 นี้ MATRADE (องค์กรส่งเสริมการส่งออกมาเลเซีย ที่อยู่ภายใต้ MITI) มีกําหนดจัดงาน MIHAS (Malaysia International Halal Showcase) ครั้งที่ 19 ในรูปแบบ hybrid ภายใต้หัวข้อ “Paving the Way of Halal” โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 ก.ย. 2566 ณ Malaysia International Trade and Exhibition Center (MITEC) กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีการตั้งเป้าหมายมูลค่าการขายไว้ที่ 2.1 พันล้านริงกิต ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถทํายอดขายได้ 2.39 พันล้านริงกิต โดยในปีนี้ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 มาเลเซียจึงได้ยกระดับการจัดงานขึ้นและคาดหวังให้มีผู้เข้าร่วมงานจากในและต่างประเทศมากกว่า 35,000 คน มีการจัดแสดงสินค้า 1,500 บูธ และมีการจัด Country Pavillion จาก 40 ประเทศ เข้าร่วม ซึ่ง Datuk Mohd Mustafa Abdul Aziz CEO ของ MATRADE มั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ข้างต้นได้ 

 

โดยขณะนี้สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการเข้าร่วมงาน ซึ่งในปีที่ผ่านมา สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศฯ ได้มีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์สําหรับผู้ประกอบการไทยที่ได้นําสินค้ามาจัดแสดงในงาน รวมถึงยังได้ร่วมจัด Thailand Pavillion แสดงสินค้าฮาลาลของไทยประเภทอาหาร แฟชั่น งานฝีมือ สุขภาพและความงาม และตกแต่งบ้าน และได้รับรางวัล Best Country Pavillion Award อีกด้วย

 

ถือว่าเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าและวัตถุดิบจากไทย เนื่องจากสินค้าไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ รวมถึงกลุ่มผู้ซื้อมีความหลากหลาย ซึ่งผู้ประกอบการสามารถศึกษาและพัฒนาสินค้าเพิ่มเติม ให้มีความทันสมัย ตรวจสอบได้ และได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้เป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดในตลาดอุตสาหกรรมฮาลาล

 

ที่มา globthailand

วันที่ 24 เมษายน 2566