เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 ที่เมืองลาบวน บาโจ ประเทศอินโดนีเซีย 

 

โดยยกประเด็นปัญหาที่ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้ความาสนใจใกล้ชิดคือประเด็นปัญหาข้ามพรมแดนและข้ามชาติอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งรวมถึงปัญหามลพิษจากหมอกควันและการดำเนินการของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งผลกระทบส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพและความมั่นคง รวมถึงประชาชนและเศรษฐกิจของชาติสมาชิกอาเซียน

 

 

นายดอนกล่าวว่า เฉพาะประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ในปีนี้มีผู้ต้องทนทุกข์จากโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศมากกว่า 2 ล้านคนอันเป็นผลมาจากหมอกควันข้ามชาติ ซึ่งไทยขอแสดงความชื่นชมกับความมุ่งมั่นของลาวและเมียนมาในการจัดการกับความท้าทายนี้ร่วมกัน โดยเราจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อผลักดัน “ยุทธศาสตร์ฟ้าใส” ในการแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงจะมีการสร้างความตระหนักรู้และการสร้างขีดความสามารถโดยกำลังประสานงานกับเมียนมาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการป้องกันการเผาในขนาดเล็กเพื่อลดจุดความร้อนลง

 

 

นายดอนกล่าวด้วยว่า ไทยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อการควบคุมมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนให้เกิดขึ้นภายในปีนี้ โดยจะให้การสนับสนุนศูนย์ดังกล่าวด้วยการใช้ดาวเทียมเพื่อติดตามจุดความร้อนต่างๆ รวมถึงจุดที่มีไฟไหม้ เพื่อเร่งการดำเนินการตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากที่ปัญหาหมอกควันทางตอนใต้ของอาเซียนได้สงบลงแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน ไทยยินดีที่ประเทศสมาชิกอาเซียนเหล่านั้นพร้อมแบ่งปันประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดกับพวกเราในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อทำให้ภูมิภาคของเราปลอดจากหมอกควันในท้ายที่สุด

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566