ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ซึ่งเป็นองค์กรหลักของธนาคารกลางโลก เรียกร้องเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในจุดสำคัญ ขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังพยายามดิ้นรนเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

 

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำหลายประเทศยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนการกู้ยืมเงินพุ่งสูงขึ้นได้ทำให้ธนาคารหลายแห่งล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินเมื่อ 15 ปีก่อน

 

ในรายงานประจำปีของ BIS ที่เผยแพร่ออกมาล่าสุด นายออกุสติน คาร์สเตนส์ ผู้จัดการใหญ่ของ BIS กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ แต่ความท้าทายที่รุนแรงนี้ต้องได้รับการแก้ไข

 

“มันถึงเวลาที่การติดตามการเติบโตระยะสั้นอย่างหมกมุ่นได้ผ่านไปแล้ว นโยบายการเงินจะต้องฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคา และนโยบายการคลังจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว” คาร์สเตนส์ระบุ

 

ด้านนายเคลาดิโอ โบริโอ หัวหน้าฝ่ายการเงินและเศรษฐกิจของ BIS กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่ “จิตวิทยาเงินเฟ้อ” กำลังจะก่อตัวขึ้น แม้ว้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอังกฤษและนอร์เวย์สูงกว่าที่คาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะแสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางกำลังผลักดันเพื่อให้เสร็จงานในการแก้ไขปัญหา

 

BIS ระบุว่า ยิ่งอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นนานเท่าใด ก็จำเป็นบังคับใช้นโยบายเข้มงวดให้แข็งแกร่งและยาวนานขึ้น พร้อมเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาเพิ่มเติมในภาคการธนาคารซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

 

โบริโอกล่าวว่า หากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดี่ยวกับกลางทศวรรษที่ 1990 ภาระของการชำระหนี้โดยรวมของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำจะสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เขาคิดว่ะนาคารกลางจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ เพราะนั่นคืองานของพวกเขาเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคา คำถามก็คือราคาที่ต้องจ่ายจะเป็นอย่างไร

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 25 มิถุนายน 2566