เมืองในประเทศแถบอาหรับ ทั้งกรุงโดฮา, ดูไบ และกรุงอาบูดาบี ติด Top เมืองตลาดงานแข่งขันสูงที่สุดในโลก ส่วนเมืองในสหรัฐที่ติดอันดับส่วนใหญ่อยู่ในซิลิคอนวัลเลย์

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก อ้างอิงผลการศึกษาจากเรซูเมไอโอ เว็บไซต์สร้างใบเรซูเมออนไลน์ รายงานว่า กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์, กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีคนสมัครงานมากที่สุด เมื่อเดือนก.พ. 2566 เมื่อดูจากการรับสมัครงานในลิงก์อิน 1 รายการ

 

ในการจัดอันดับ เรซูเมไอโอดูข้อมูล 130 เมืองและทุกรัฐในสหรัฐ โดยติดตามว่าแต่ละงานในแต่ละเมือง มีคนลงสมัครงานกี่คน ในสัปดาห์แรกหลังประกาศรับสมัคร

 

10 อันดับเมืองที่ตลาดงานมีการแข่งขันมากที่สุดในโลก (ณ เดือน ก.พ. 2566) และ จำนวนคนสมัครงานเฉลี่ยต่อ 1 ตำแหน่ง

 

1).กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ 399 คน

2).ดูไบ ประเทศยูเออี 283 คน

3).กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี 168 คน

4).โยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ 160 คน

5).กรุงอาบูดาบี ประเทศยูเออี 149 คน

6).กรุงมาดริด ประเทศสเปน 116 คน

7).เมืองซานโฮเซ ประเทศสหรัฐ 108 คน

8).กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา 104 คน

9).ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐ 92 คน

10).เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล 83 คน

 

ประเทศที่ตลาดงานมีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานฟุตบอลโลกเมื่อปีก่อน ซึ่งตั้งแต่ปี 2553 กาตาร์ใช้งบประมาณมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รองรับผู้ชมจากทั่วโลก อาทิ สร้างโรงแรมใหม่ 100 แห่ง ขยายท่าเรือ และสนามบินปรับปรุงถนน และอื่นๆ

 

แม้การแข่งขันฟุตบอลโลกทำให้การปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติของกาตาร์ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ แต่กาตาร์ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดแรงงานที่ต้องการหางาน

 

กาตาร์กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำเท่าระดับสากล และไม่เก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้เป็นสถานที่ทำงานที่ลูกจ้างมีกำไร

 

แรงงานในเมืองดูไบ และกรุงอาบูดาบี หนึ่งในเมืองที่ตลาดแรงงานมีการแข่งขันมากที่สุด ไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเช่นกัน

 

ตลาดงานในเมืองซานโฮเซ ศูนย์กลางซิลิคอนวัลเลย์ และซานฟรานซิสโกของสหรัฐ มีการแข่งขันสูงเช่นกัน ซึ่งทั้งสองเมืองมีเงินเดือนเฉลี่ยค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกด้วย

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 26 มิถุนายน 2566