"จีน" ขึ้นชื่อผู้นำวัฒนธรรมอาหารระดับโลก เมื่อเวลาผ่านไป ความเป็นเชฟอาหารจีนกำลังเจอปัญหาไร้คนสืบทอด เพราะเด็กรุ่นใหม่หันไปมีธุรกิจของตนเอง ทำให้ขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้านอาหาร รวมถึงพ่อครัวแม่ครัว ไปจนถึงนักวิทยาศาสตร์การอาหาร ซึ่งจัดว่าเป็นวาระแห่งชาติ

 

ไชน่ามีเดียกรุ๊ปรายงานว่า ขณะนี้ความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะในอุตสาหกรรมอาหารสูงถึง 1.8 เท่าของตำแหน่งงานบริการทั่วไป ขณะที่สัดส่วนความต้องการแรงงานที่มีทักษะในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสูงถึง 3 เท่าของตำแหน่งงานบริการทั่วไปด้วย

 

จีนจัดเวทีการแข่งขันการทำอาหารยิ่งใหญ่ระดับประเทศขึ้นที่เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 300 คน เพื่อสรรหาผู้มีทักษะด้านการทำอาหารให้ได้ก้าวสู่ความเป็นเชฟที่สร้างตำนานให้กับประเทศ และเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารที่วัยแตกต่างกันได้โชว์ฝีไม้ลายมือของตัวเอง บนความเชื่อว่า “อาหารสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกาลเวลา ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตของจีน” 

 

ผู้ประกาศกล่าวเปิดการแข่งขันแนะนำความสำคัญของเวทีนี้ พร้อมระบุมีบริษัทผู้นำธุรกิจอาหารหลายสิบแห่งมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อเป็นคอมเมนเตเตอร์และคัดเลือกผู้ที่มีทักษะความสามารถด้านอาหารจำนวน 100 คนไปทำงานกับบริษัทเหล่านี้ 

 

ก่อนหน้านี้ เจ้าของร้านอาหารและนักธุรกิจจีนส่วนใหญ่จะมีไอเดียนำเอไอมาทำหน้าที่ตำแหน่งเชฟทำอาหาร แต่ก็ไม่อาจเติมเต็มได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

 

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีโพสต์รับสมัครพ่อครัวแม่ครัวหลายร้อยตำแหน่งทางออนไลน์ แม้มีผู้สมัครเข้ามาจำนวนมาก แต่ใช่ว่าจะผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันร้านอาหารระดับกลางไปจนถึงร้านที่มีชื่อเสียงในมณฑลต่างๆ สนนราคาจ้างเชฟมือใหม่เริ่มต้นที่ 10,000 หยวนหรือประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน

ข้อมูลรับสมัครงานในเว็บไซต์ zhaoping.con สะท้อนความต้องการรับสมัครงานเชฟทำอาหารในฮาร์บินเพิ่มขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิเมื่อเดือน ก.พ. อุตสาหกรรมการบริการและอาหารในเมืองนี้ต้องการเชฟเพิ่มขึ้นถึง 33.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี 

 

เพื่อจัดการปัญหาขาดแคลนเชฟ ทำให้หลายแห่งจึงหันไปใช้หุ่นยนต์จัดเลี้ยง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อปีที่แล้ว

ร้านหม้อไฟแห่งหนึ่งในเมืองฮาร์บินบอกกับเว็บไซต์ Zaker ว่า ได้ซื้อหุ่นยนต์สามตัว แม้ราคาแต่ละตัวอยู่ที่ 20,000 - 30,000 หยวนหรือประมาณ 100,000 - 150,000 บาท แต่ก็มีประโยชน์หลากหลาย ส่วนใหญ่จะใช้เสริฟอาหาร

 

ถ้าต้องการเชฟโรบอตก็ต้องจ่ายมากขึ้น เทียบได้กับซื้อเครื่องแมคคานิกส์เพื่อทำหน้าที่ปรุงอาหารในห้องครัว

 

สถาบันเทคโนโลยีของฮาร์บินได้คิดค้นและพัฒนาหุ่นยนต์ทำบะหมี่ หมั่นโถว ซาลาเปา และอาหารจีนอื่นๆ ซึ่งโรบอตหนึ่งตัวทำงานเร็วกว่ามนุษย์ 3- 5 คน 

 

ขณะที่ซัพพลายเออร์และผู้ผลิตอาหารส่งไปตามโรงเรียนต่างๆในฮาร์บินได้หันมาใช้อุปกรณ์อัตโนมัติได้ระยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรที่ทำงานตามโปรแกรมและมีเฉพาะบางเมนูเท่านั้น รวมถึงการประกอบอาหารได้ตั้งเวลาไว้ เพื่อให้อาหารมีรสชาติอร่อยเหมือนกันในทุกๆจาน

 

ถึงอย่างไรโรบอตเชฟจะทำหน้าที่เติมเต็มช่วงเวลาที่ร้านอาหารหลายแห่งในประเทศจีน ยังขาดแคลนพ่อครัวแม่ครัว แต่สิ่งหนึ่งที่ทดแทนไม่ได้คือ “การใส่ใจลงไปในอาหาร” เพราะโรบอตทำตามโปรแกรม ส่วนมนุษย์ทำเพราะใจรัก

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 4 กรกฏาคม 2566