จีน เตรียมห้ามนำเข้าอาหารจากหนึ่งในห้าจังหวัดของญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากญี่ปุ่นเตรียมปล่อยน้ำปนเปือนนิวเคลียร์ลงสู่ทะเล หลังไอเออีเอ ระบุ แผนปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ลงสู่มหาสมุทร เป็นไปตามมาตรฐานสากล

 

กรมศุลกากรจีนระบุว่า จะยกระดับการตรวจสอบและเฝ้าระวังสารกัมมันตรังสีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น ผ่านการสั่งห้ามนำเข้าอาหารจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น

 

ขณะเดียวกัน จีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ระบุว่า จีนจะพิจารณาเอกสารขอนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล จากพื้นที่อื่น ๆ ของญี่ปุ่นอย่างเข้มงวดเช่นกัน

 

จีน ระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากญี่ปุ่นไหลเวียนเข้าสู่จีนและปกป้องความปลอดภัยของอาหารนำเข้าของผู้บริโภคจีน

 

ในสัปดาห์นี้ ไอเออีเอ ไฟเขียวให้ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำเสียกว่าหนึ่งล้านตันที่ใช้หล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ได้รับความเสียหายในเหตุสึนามิเมื่อปี 2554 แม้จีนออกมาคัดค้านต่อเนื่องหลายสัปดาห์ก็ตาม

 

เมื่อเดือนเม.ย. ปี 2564 รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติให้ปล่อยน้ำที่ผ่านการฉายรังสีมากกว่า 1 ล้านตัน จากโรงไฟฟ้าหลังการบำบัดลงสู่มหาสมุทร โดยระบุในขณะนั้นว่าการการปล่อยน้ำลงทะเลจะเกิดขึ้นในอีกประมาณ 2 ปีถัดจากนี้ไป

 

ระบบทำความเย็นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสึนามิในปี 2554 ถือเป็นอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล

 

การปลดประจำการโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 40 ปี โรงไฟฟ้าแห่งนี้ผลิตน้ำที่ปนเปื้อนโดยเฉลี่ยวันละ 100 ลูกบาศก์เมตร ในช่วงเดือนเม.ย.ถึงเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปริมาณที่ผสมผสานของน้ำใต้ดิน น้ำทะแล และน้ำฝนที่ซึมลงในพื้นที่ รวมถึงน้ำที่ใช้สำหรับการหล่อทำความเย็น

 

น้ำเหล่านี้ได้รับการกรองเพื่อขจัดนิวไคลด์กัมมันตรังสีต่างๆ และย้ายไปเก็บไว้ในถังสำหรับเก็บกัก โดยขณะนี้  มีการเก็บน้ำไว้มากกว่า 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ก็ค่อยๆ น้อยลงทุกที

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 7 กรกฏาคม 2566