"อิสราเอล" เตรียมก่อสร้างเส้นทางรถไฟ มูลค่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เชื่อมต่อพื้นที่รอบนอกของประเทศ กับเทลอาวีฟ ปูทางอนาคตให้เป็นคมนาคมทางบกไปยังซาอุดีอาระเบีย

 

นายกรัฐมนตรีเบนตามิน เนทันยาฮู ประกาศในวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐได้เดินทางไปยังซาอุดิอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ รวมไปถึงช่วยเสริมสร้างความร่วมมือด้านโรงไฟฟ้ามุสลิมกับอิสราเอล 

 

มีรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีของอิสราเอลประจำสัปดาห์ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูพยายามหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ผลพวงจากรัฐธรรมนูญที่รุมเร้าประเทศนานรวม 7 เดือน ซึ่งทำลายเศรษฐกิจและสั่นคลอนความเชื่อมั่นของพันธมิตรชาติตะวันตก 

 

ขณะเดียวกัน เขากลับส่งเสริมโครงการริเริ่มก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึง “โครงการอิสราเอลหนึ่งเดียว” หรือ One Israel Project โดยนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูได้อธิบายไว้ว่า เป็นโครงการที่ออกแบบเพื่อลดเวลาการเดินทางทางรถไฟไปยังศูนย์ธุรกิจและศูนย์ราชการของประเทศ ให้เหลือเพียง 2 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น 

 

“เราสามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟจากไอแลตไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และสามารถเดินทางโดยรถไฟจากอิสราเอลไปยังซาอุฯ และคาบสมุทรอาหรับ” นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกล่าวทางโทรทัศน์

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วง โดยมีชาวอิสราเอลหลายพันคนออกมาเดินตามท้องถนนในวันเสาร์ (29 ก.ค.) เพื่อคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลที่เดินหน้าแผนปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แม้จะมีการต่อต้านกว้างขวาง

ผู้ประท้วงได้รวมตัวกันและโบกธงชาติอิสราเอลที่ศูนย์กลางการค้าของเทลอาวีฟ หวังแสดงพลังคัดค้านข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู

 

มีการนัดชุมนุมตั้งแต่เมืองทางตอนเหนือของไฮฟาไปจนถึงเมืองไอแลตในทะเลแดง โดยแกนนำประท้วงได้เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่รัฐบาลวางรากฐานสำคัญของการปฏิรูป โดยสภาจะมีการโหวตลงคะแนนเสียงครั้งสุดท้ายในวันจันทร์นี้ (31 ก.ค.)

 

อย่างไรก็ตาม การลงมติให้ยกเลิกกฎหมายขึ้นอยู่กับการพิจารณาถึง “ความสมเหตุสมผล” ซึ่งศาลสูงสุดสามารถคว่ำการตัดสินใจของรัฐบาลได้

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 30 กรกฏาคม 2566