เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันว่า TICA (Thailand International Cooperation Agency) ได้จัดงาน TICA Connect ครั้งที่ 8 ขึ้นที่วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้หัวข้อหลักในปีนี้คือ “Enhancing International Cooperation for Sustainable Future” หรือ “การขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน” 

 

โดย นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กล่าวว่า โดยที่หลายประเทศรวมทั้งไทยมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติภายในปี ค.ศ. 2030 ในขณะที่ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ต้องเผชิญกับวิกฤตมากมายส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ดังนั้น การแสวงหาความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาและการวางรากฐานความร่วมมือระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ไทยและประเทศต่างๆ สามารถร่วมกันรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมั่นคง และก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้

 

อธิบดีอุรีรัชต์กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่งานด้านการพัฒนาของไทยในต่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาด้วยกัน ซี่ง TICA ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน และให้ความสำคัญกับ BCG Economy Model รวมทั้งเน้นบทบาทของหน่วยงานด้านการพัฒนาทั้งไทยและต่างประเทศที่เป็นคู่ร่วมมือกับ TICA ตลอดจนเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายระหว่างกันเพื่อประโยชน์ในการร่วมกันดำเนินงานในอนาคต เป็นที่น่ายินดืที่มีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้กว่า 500 คน รวมทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ให้ความสนใจกับนิทรรศการของ TICA ซึ่งนำโครงการใน สปป. ลาว กัมพูชา และภูฏานมาจัดแสดง

 

นอกจากนี้ยังมีคู่ร่วมมือต่างๆ ของ TICA อย่างโครงการหลวง กรมพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฟาร์มทะเลตัวอย่าง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนำผลิตภัณฑ์จากผู้พิการมาจัดแสดงและจำหน่าย ตลอดจนหน่วยงานด้านการพัฒนาต่างประเทศ เช่น USAID และ Peace Corps ของสหรัฐอเมริกา JICA ของญี่ปุ่น KOICA ของเกาหลีใต้ GIZ จากเยอรมนี  และ AFD ของฝรั่งเศส เป็นต้น เพื่อผยแพร่ให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทั้งของไทยและที่ TICA ดำเนินการกับหุ้นส่วนต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม

 

นายศรันย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน ขณะที่ ดร.สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “Linking Forward to Leave No One Behind” ซึ่งพูดถึงการที่ประชาคมโลกจะต้องร่วมกันรับมือกับสิ่งท้าทายในรูปแบบต่างๆ

 

ขณะเดียวกันยังมีการจัดงานเสวนาที่สำคัญ 2 งาน คือการเสวนาระหว่าง TICA กับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาจากประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่จะนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยเน้นเป้าหมายที่ 13 (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ 17 (การเป็นหุ้นส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนา) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในไทยและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ส่วนการเสวนาในเวทีที่ 2  เป็นเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในต่างประเทศผ่านการดำเนินโครงการส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ในลักษณะหนึ่งตำบลหนี่งผลิตภัณฑ์ที่ภูฏาน การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ที่ สปป. ลาว และการพัฒนาชุมชนต้นแบบที่กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนของการดำเนินงานภายหลังโครงการเสร็จสิ้น ขณะที่เว็บไซต์ของ TICA ยังได้เผยแพร่คู่มือเกี่ยวกับการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในต่างประเทศ ควบคู่กันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอีกด้วย

 

ภายในงานดังกล่าว ยังได้มีการนำเสนอผลสำเร็จของการดำเนินงานโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อประชาชน (Public Private Partnership for People : PPPP) การเปิดตัว Inthanin Drip Coffee : Thep Sadet ซึ่งเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง TICA และ JICA ในโครงการพัฒนาเมล็ดกาแฟที่ปลูกโดยสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา ซึ่ง TICA ได้จับมือกับบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ “กาแฟดริปเทพเสด็จ” มีจำหน่ายที่ร้านกาแฟอินทานิน ซึ่งจะทำให้ชาวเกษตรกรกาแฟดอยสะเก็ดมีรายได้มากขึ้น

 

อธิบดีอุรีรัชต์กล่าวว่า กรมความร่วมมือระหว่างประเทศมียินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้ และหวังว่าจะสามารถนำรูปแบบความร่วมมือ PPPP ไปประยุกต์กับโครงการอื่นๆ ในอนาคต ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้มอบเข็มเกียรติคุณและประกาศนียบัตรแก่บริษัทบางจากสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 29 สิงหาคม 2566