สำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชียและรอยเตอร์รายงานว่า ประเทศอินโดนีเซียเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการโกลเด้นวีซ่า เพื่อดึงดูดทั้งนักลงทุนรายบุคคลและบริษัทจากต่างชาติให้เข้ามาทำการลงทุนในประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามแถลงการณ์ของกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนของประเทศอินโดนีเซีย ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 กันยายน

 

นายซิลมี คาริม อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองของอินโดนีเซีย ระบุว่า การถือโกลเด้นวีซ่าจะเป็นการขยายอายุบัตรผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลา 5-10 ปี และผู้ที่ถือโกลเด้นวีซ่าจะไม่ต้องยื่นขออนุญาตเข้าเมืองอีกต่อไปเมื่อเดินทางมาถึงประเทศอินโดนีเซีย

 

ทั้งนี้ นักลงทุนรายบุคคลที่ต้องการวีซ่าระยะเวลา 5 ปี จะต้องก่อตั้งบริษัทมูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยราว 87 ล้านบาท และสำหรับนักลงทุนที่ต้องการวีซ่าระยะเวลา 10 ปี จะต้องทำการลงทุนเป็นเงิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 175 ล้านบาท

 

ด้านนักลงทุนบริษัทจะต้องทำการลงทุนเป็นเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 875 ล้านบาท เพื่อที่ผู้อำนวยการและคณะกรรมการของบริษัทจะได้รับวีซ่า 5 ปี และบริษัทต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,751 ล้านบาทเพื่อให้ได้มาซึ่งวีซ่า 10 ปี

 

อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ไม่ต้องการที่จะก่อตั้งบริษัทในประเทศอินโดนีเซีย แต่ต้องการโกลเด้นวีซ่าจะต้องทำการลงทุนเป็นเงิน 350,000-700,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยราว 12-24 ล้านบาท ในกองทุนเพื่อซื้อพันธบัตรของรัฐบาลอินโดนีเซีย

 

นอกจากประเทศอินโดนีเซียแล้ว ชาติอื่นๆ ทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสเปน ก็มีการออกโกลเด้นวีซ่าให้แก่นักลงทุนเช่นกันเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาพำนักในประเทศเช่นกัน

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 3 กันยายน 2566