วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวกับ เรเจป ไตยยิป แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกีว่า รัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงเปิดทางทะเลดำเพื่อให้ขนส่งธัญพืชออกจากยูเครนได้อย่างปลอดภัย หรือ เกรนดีล (grain deal) 

 

วันที่ 4 กันยายน 2023 วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวกับ เรเจป ไตยยิป แอร์โดอาน (Regep Tayyip Erdogan) ประธานาธิบดีตุรกีว่า รัสเซียเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงเปิดทางทะเลดำเพื่อให้ขนส่งธัญพืชออกจากยูเครนได้อย่างปลอดภัย (Black Sea Grain Initiatives) หรือ เกรนดีล (grain deal) 

 

รัสเซียยกเลิกข้อตกลงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หนึ่งปีหลังจากที่องค์การสหประชาชาติ (UN) และตุรกีเป็นนายหน้าการเจรจาให้เกิดข้อตกลงดังกล่าวในปี 2022 โดยรัสเซียร้องเรียนว่า ข้อตกลงนี้อำนวยความสะดวกให้การขนส่งธัญพืชของยูเครนเพียงฝ่ายเดียว แต่การส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซียนั้นเผชิญกับอุปสรรค 

 

แอร์โดอาน ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวให้ปูตินปฏิบัติตามข้อตกลง และองค์การสหประชาชาติ กำลังพยายามโน้มน้าวให้ปูตินกลับเข้าไปสู่การทำข้อตกลงดังกล่าว 

 

ปูตินกล่าวเปิดการประชุมกับแอร์โดอานที่แบล็กซี รีสอร์ต (Black Sea Resort) ในเมืองโซชิ ประเทศรัสเซียว่า พวกเขา (ปูตินกับแอร์โดอาน) จะสามารถสรุปการเจรจาเกี่ยวกับศูนย์กลางก๊าซธรรมชาติ (natural gas hub) ในตุรกี และกล่าวว่า พวกเขาจะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงเปิดทางขนส่งธัญพืช (Black Sea Grain Initiatives หรือ grain deal) ด้วย

 

“ผมรู้ว่าคุณตั้งใจที่จะยกประเด็นเรื่อง grain deal ขึ้นมา … เราเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้” ปูตินบอกกับแอร์โดอาน 

 

ด้านแอร์โดอานบอกกับปูตินว่า คนทั่วโลกกำลังรอข่าวเกี่ยวกับปัญหาเส้นทางการขนส่งธัญพืชอยู่ 

 

“ทุกคนกำลังรอคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการประชุมของเราในวันนี้” 

 

“ผมเชื่อว่าข้อความในการแถลงข่าวหลังการประชุมจะเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งโลก โดยเฉพาะสำหรับหลายประเทศในแอฟริกา” ประธานาธิบดีตุรกีกล่าว 

 

ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้มุ่งไปที่การส่งธัญพืชจากยูเครนสู่ตลาดโลกผ่านทางทะเลดำอย่างปลอดภัย และบรรเทาวิกฤตอาหารโลกที่องค์การสหประชาชาติกล่าวว่า “เลวร้ายลง” โดยเป็นผลจากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เนื่องจากทั้งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตพืชผลทางการเกษตรรายใหญ่ของโลก และเป็นผู้เล่นหลักในตลาดข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด เรพซีด น้ำมันเรพซีด เมล็ดทานตะวัน และน้ำมันดอกทานตะวัน

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 4 กันยายน 2566