นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง – ล้านช้าง ครั้งที่ 8 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวถึงการหารือทวิภาคีกับ นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมว่า บรรยากาศหารือดีมาก เพราะไทยกับจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ซึ่งตนได้เชิญนายหวัง อี้ เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่มีความสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย

 

นายปานปรีย์กล่าวว่า ระหว่างหารือได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆร่วมกัน อาทิ โครงการแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative-BRI) ซึ่งจีนคาดหวังว่าโครงการรถไฟเชื่อมไทย-ลาว-จีน จะสำเร็จโดยเร็ว นายปานปรีย์รับปากว่าเมื่อกลับไทยแล้วจะเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อเร่งรัดให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว

 

ขณะที่นาย หวัง อี้ กล่าวว่า จีนสั่งซื้อสินค้าเกษตรของไทยเพิ่มขึ้น เช่น ทุเรียนไทย ที่จีนสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ 80,000 ลูก ภายในระยะเวลาเพียง 1 นาที ฉะนั้นหากโครงการนี้เสร็จสิ้นเชื่อว่าไทยจะสามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้เพิ่มมากขึ้น สร้างเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้แข็งแรง และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป

 

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องการยกระดับการทำฟรีวีซ่าเพื่อให้คนไทยถือพาสปอร์ตธรรมดาสามารถเข้าจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งขณะนี้คนจีนเดินทางเข้าไทยก็ไม่ต้องขอวีซ่าอยู่แล้ว แม้จะเป็นเพียงชั่วคราวซึ่งจะเจรจาขยายเวลาออกไป โดยกระทรวงการต่างประเทศจะตั้งคณะทำงานไปประชุมร่วมกับฝ่ายจีน ในช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้หรือช่วงปีใหม่ เพื่อดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว โดย นายหวัง อี้ ก็สนับสนุนและพร้อมดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

 

นายปานปรีย์ย้ำว่า หากได้วีซ่าฟรี แต่เข้าไปอยู่เกิน หรือตั้งใจไปทำมาหากิน หรืออะไรก็แล้วแต่โดยไม่ถูกกฎหมาย ก็จะเสียชื่อประเทศ และเป็นโอกาสที่ทำให้ประเทศนั้นยกเลิกวีซ่าได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนที่อยากไปท่องเที่ยวเที่ยว

ส่วนการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติกรณีเปิดฟรีวีซ่านั้น คณะทำงานที่จะไปหารือกับจีนก็จะหารือเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งหากทำได้มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

 

นายปานปรีย์กล่าวด้วย ในการหารือกับนายหวัง อี้  ไทยแสดงความกังวลเรื่องเฟคนิวส์ ที่อาจทำให้คนจีนเข้าใจผิดว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัยสำหรับคนจีนที่มาเที่ยวไทย ซึ่งทางจีนรับทราบเรื่องนี้ว่าเป็นเฟคนิวส์

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 7 ธันวาคม 2566