ในการนี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ย้ำว่า ปี 2024 เป็นปีที่มีความหมายพิเศษในการปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 แผนการพัมนาเศรษฐกิจ-สังคมในช่วงปี 2021 -2025  รวมทั้งนโยบายด้านการเงิน  

 

ดังนั้น หน่วยงานธนาคารต้องปฏิบัตินโยบายการเงินในเชิงรุก มีความคล่องตัว ทันการณ์ มีประสิทธิภาพ ผสานกับการปฏิบัตินโยบายงบประมาณและนโยบายต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและใกล้ชิด แก้ไขปัญหาในการผลิตและประกอบธุรกิจให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ ธนาคารมีบทบาทหลักในเศรษฐกิจ  เป็นช่องทางระดมเงินทุนเพื่อการผลิตและการประกอบธุรกิจ มีส่วนร่วมสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเองผสานกับการผสมเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพ

 

 “หน่วยงานธนาคารต้องเน้นปฏิบัติตามคำชี้นำของคณะเลขาธิการกลางพรรคฯเกี่ยวกับการเกษตร เกษตรกรและชนบทจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2045และมติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพของเศรษฐกิจหมู่คณะในระยะใหม่ มติของสภาแห่งชาติเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมในปี 2024 และการชี้นำของรัฐบาล ธนาคารชาติในการค้ำประกันการปล่อยเงินกู้ให้แก่ด้านที่ได้รับความสนใจต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเกษตรและเขตชนบท”

 

ส่วนในการพบปะกับเจ้าหน้าที่พนักงานหน่วยงานตรวจเงินแผ่นดิน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะกำชับให้หน่วยงานตรวจเงินแผ่นดินเกาะติดงานด้านการตรวจสอบสูงสุดของสภาแห่งชาติในปีนี้ เช่น การตรวจสอบตลาดอสังหาริมทรัพย์ นโยบายที่อยู่อาศัย การปฏิบัติมติของสภาแห่งชาติเกี่ยวกับนโยบายงบประมาณและการเงินเพื่อสนับสนุนโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมและมติของสภาแห่งชาติเกี่ยวกับโครงการที่สำคัญของประเทศจนถึงปี 2023

 

ที่มา https://aiti.utcc.ac.th/?p=49976

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567