บริษัทกรองน้ำในสหรัฐ เผยผลการศึกษา กระบอกน้ำ หากไม่ล้างทำความสะอาดเป็นประจำ มีเชื้อโรคสะสม สกปรกกว่าชักโครกหลายเท่า พร้อมแนะวิธีทำความสะอาด

 

นอกจากกุญแจ โทรศัพท์ และกระเป๋าเงินแล้ว ขวดน้ำก็กลายมาเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะไม่สามารถออกจากบ้านได้หากไม่มีมัน แต่หลายคนอาจมองข้ามการทำความสะอาด นำมาใช้ซ้ำโดยไม่ล้าง หรือล้างนานๆ ครั้ง ล่าสุดมีผลวิจัยเผย หากไม่ล้างกระบอกน้ำ เชื้อโรคสะสม สกปรกกว่าชักโครก ส่งผลต่อสุขภาพ

 

บริษัทกรองน้ำในสหรัฐ เผยผลการศึกษา การทดสอบหาเชื้อโรค แบคทีเรียที่สะสมอยู่ในกระบอกน้ำที่เราใช้ดื่มในทุกวัน โดยนักวิทย์เก็บตัวอย่าง 3 ครั้งจากขวดน้ำประเภทแบบฝาเกลียว แบบหลอด แบบหัวฉีด รวมทั้งก๊อกน้ำ เพื่อหาแบคทีเรียว่ามีชนิดใดบ้าง

 

ผลการทดสอบพบแบคทีเรียในกระบอกเหล่านี้ 2 ชนิด ได้แก่ แบคทีเรียที่สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อ และ แบคทีเรียที่อาจนำไปสู่ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร ในปริมาณที่น่าตกใจ โดยกระบอกน้ำทั่วไปมีเชื้อจุลินทรีย์ถึง 20.8 ล้าน CFUs

 

ขณะที่ฝาแบบหัวฉีดและฝาเกลียวมีเชื้อสะสมถึง 30 ล้าน CFUs ส่วนแบบฝาบีบพบปริมาณแบคทีเรียน้อยสุด

 

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้เปรียบเทียบสถิติแบคทีเรียเหล่านี้กับของใช้ในครัวเรือน เพื่อดูว่ากระบอกน้ำแบบใช้ซ้ำ สกปรกกว่าของใช้ทั่วไปหรือไม่ โดยผลการศึกษาพบว่า กระบอกน้ำแบบใช้ซ้ำมีแบคทีเรียสะสมมากกว่าชักโครกถึง 40,000 เท่า

 

นอกจากนี้ ยังมีเชื้อโรคมากกว่าชามอาหารสัตว์เลี้ยง 14 เท่า และมากกว่าเมาส์คอมพิวเตอร์ 5 เท่า ดังนั้นคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณทำความสะอาดกระบอกน้ำอย่างถูกต้องแล้วหรือยัง

 

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ให้ล้างกระบอกน้ำอย่างทั่วถึงอย่างน้อยวันละครั้ง ซึ่งทาง ดร.พริมโรส ฟรีสโตน ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาคลินิกจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ กล่าวว่า คุณควรทำความสะอาดกระบอกน้ำด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60°C

 

โดยวิธีง่ายๆ คือ ล้างด้วยน้ำยาล้างจาน หมุนน้ำยาไปรอบๆ ทิ้งไว้ 10 นาทีจากนั้นล้างด้วยน้ำร้อน และปล่อยให้แห้ง ทิ้งไว้ข้ามคืนจะดีที่สุด เพราะการทำให้แห้งสนิทจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์

 

สำหรับคราบสกปรกที่ฝังแน่น (จากการใช้งานนานโดยไม่ล้าง) ให้ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำในอัตราส่วนเท่าๆ กัน และแช่ทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นทำตามวิธีข้างต้นอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

 

ดร.ฟรีสโตน ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยจากเชื้อโรคในกระบอกน้ำของคุณ คุณควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด รวมถึงฝาหรืออุปกรณ์เสริม อย่างหลอดหลังการใช้งานทุกครั้ง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้เช่นกัน

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 7 มกราคม 2568