เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 รัฐบาลเวียดนามวางแผนจะจัดตั้งศูนย์การเงินระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ (Regional and International Financial Center) ที่นครโฮจิมินห์และนครดานังในปี 2568 โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายน 2567 เวียดนามได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการพัฒนาศูนย์การเงินฯ โดยมีนาย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เป็นประธานคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งคณะกรรมการฯ จะมีหน้าที่รับผิดชอบการวิจัย กำกับดูแล และประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการฯ

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามเปิดเผยถึง 5 ปัจจัยในการพัฒนาศูนย์การเงินฯ ทั้งสองแห่ง ประกอบด้วย 

 

(1) GDP ของเวียดนามในปี 2567 อยู่ที่ 470,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน GDP per capita อยู่ที่ 4,600 – 4,700 ดอลลาร์สหรัฐ และเวียดนามตั้งเป้าให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อยร้อยละ 8 ในปี 2567 และแตะระดับสองหลัก (Double-Digit Growth) ในช่วงปี 2569 – 2573 

 

(2) ความก้าวหน้าเชิงกลยุทธ์กำลังบรรลุผลการบริหารจัดการโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ 

 

(3) ตลาดหุ้นเวียดนามมีมูลค่ากว่า 283,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จึงกลายเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค 

 

(4) เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) 17 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่มีเศรษฐกิจชั้นนำ 65 แห่งของโลก มูลค่าการค้าทะลุ 786,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ 

 

(5) เวียดนามเป็นประเทศที่มีภูมิรัฐศาสตร์สำคัญ และเสถียรภาพทางการเมือง (political stability) เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและการพัฒนา

 

โครงการนี้จะช่วยให้เวียดนามเพิ่มความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินโลก ดึงดูดการลงทุนจากสถาบันการเงินทั่วโลก และใช้ประโยชน์จากกระแสการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเวียดนาม (ข้อมูล: ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม/ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย, เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)

 

ที่มาส globthailand

วันที่ 28 มกราคม 2568