วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว 2 รายว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีโลกและซีอีโอของ Tesla พันธมิตรสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องตรงต่อทรัมป์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ทรัมป์ยกเลิกภาษีศุลกากรใหม่ที่เขาเพิ่งประกาศบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 เมษายน

 

การโต้เถียงครั้งนี้ถือเป็นความขัดแย้งที่ชัดเจนที่สุดระหว่างทรัมป์และมัสก์ รายงานดังกล่าวระบุว่า ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เผยอัตราภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้ามายังสหรัฐทั้งหมด รวมถึงภาษีศุลกากรต่างตอบแทนกับอีกหลายสิบประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐ หรือกับประเทศที่สหรัฐระบุว่าใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ

 

ทำเนียบขาวและมัสก์ไม่ได้ตอบกลับ หลังถูกสอบถามความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว

 

มัสก์ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของทรัมป์ ได้ช่วยทำงานเพื่อลดการใช้จ่ายภาครัฐที่ฟุ่มเฟือย ได้เรียกร้องให้สหรัฐและยุโรปไม่มีภาษีศุลกากรระหว่างกันในระหว่างการหารือออนไลน์ในการประชุมใหญ่ที่เมืองฟลอเรนซ์ของพรรค League Party ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายขวาของอิตาลีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ยอดขายไตรมาสของ Tesla ลดลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของมัสก์ในกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) ที่ถูกตั้งขึ้นใหม่ โดยหุ้นของ Tesla ลดมูลค่าลงกว่า 42% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยล่าสุดในการปิดตลาดเมื่อวันที่ 7 เมษายน มีราคาที่ 233.29 ดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มัสก์เคยระบุว่า ภาษีรถยนต์ของทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อ Tesla อย่างมีนัยสำคัญ

 

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ภาษีศุลกากรดังกล่าวอาจจุดชนวนให้เกิดเงินเฟ้อขึ้นอีกครั้ง เพิ่มความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ และเพิ่มต้นทุนของครอบครัวทั่วไปในสหรัฐอีกหลายพันดอลลาร์ต่อครัวเรือน ซึ่งถือเป็นภาระสำหรับประธานาธิบดีที่หาเสียงด้วยคำมั่นสัญญาที่จะลดค่าครองชีพของประชาชนชาวอเมริกันลง

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 8 เมษายน 2568