ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่มาพร้อมความยากลำบากครั้งใหญ่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนนโยบายภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังปรับตัวรับมือความเสี่ยงสงครามการค้า การส่งออก การท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย กำลังถูกจับตามองว่าจะเป็นความหวังพยุงระบบเศรษฐกิจของประเทศได้แค่ไหน และจะทำอย่างไรให้สองภาคส่วนนี้แข็งแกร่งพอที่จะรับมือความไม่แน่นอนที่กำลังมาถึง โดยเฉพาะความล้มเหลวของภาคท่องเที่ยวที่วันนี้เรากำลังสูญเสียการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย

 

การส่งออกของไทยซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของจีดีพี คือ ส่วนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ความไม่แน่นอนทำให้ผู้ประกอบการส่งออกไทยต่างระมัดระวังการลงทุน และชะลอการขยายกำลังการผลิต เนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่านโยบายดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้เมื่อใด รายละเอียดอย่างไร ภาครัฐจึงต้องเร่งดำเนินการสองด้านพร้อมกัน คือ เจรจาเพื่อลดผลกระทบ รวมถึงเร่งหาตลาดส่งออกใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง ส่วนภาคท่องเที่ยวของเราที่เคยรุ่งโรจน์ กำลังถูกท้าทายจากคู่แข่งอย่าง “เวียดนาม” เนื่องจากทั้งเวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น กำลังพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราต้องรื้อใหญ่ โครงสร้างท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาเป็นหมุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกครั้ง เน้นการท่องเที่ยวคุณภาพสูง สร้างรายได้ต่อหัวมากกว่าการแข่งขันด้านปริมาณ

 

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจในระยะยาว เราต้องมีโรดแมปชัดเจนเพื่อเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำและการท่องเที่ยวมวลชน ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมด้านทักษะแรงงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ ทั้งในด้านภาษาต่างประเทศ ทักษะดิจิทัล ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลาย ยกระดับบริการท่องเที่ยวและเพิ่มผลิตภาพในภาคการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งการลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์อาจไม่เห็นผลทันที แต่เป็นรากฐานสำคัญทำให้ไทยสามารถปรับตัวได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

ภาครัฐควรมุ่งเน้นสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทั้งด้านกฎระเบียบ โครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขณะที่ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัวและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งเพื่อเจาะตลาดระดับบน ท้ายที่สุด การกระตุ้นการส่งออก ท่องเที่ยว เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นถึงกลาง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญ คือ การสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อให้ไทยยืนหยัดได้มั่นคง ไม่ว่านโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์จะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 25 เมษายน 2568