ในปี 2567 เศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กยังคงเติบโตอย่างชะลอตัวที่ร้อยละ 1 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนในช่วงไตรมาสที่สอง ขณะที่การส่งออกสุทธิได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอ ด้านการคลัง รัฐบาลขาดดุลงบประมาณ 271.4 พันล้านคอรูน่า คิดเป็นร้อยละ 2.2–2.8 ของ GDP 

 

ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 3 ของ GDP ส่วนหนี้สาธารณะอยู่ที่ 3,365.2 พันล้านคอรูน่า เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 254.3 พันล้านคอรูน่า หรือคิดเป็นร้อยละ 42 ของ GDP (จากเดิมร้อยละ 40.8) โดยมีหนี้เฉลี่ยต่อหัวที่ 308,812 คอรูน่า การเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เกิดจากการออกพันธบัตรใหม่เพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุล การปรับโครงสร้างหนี้เดิม (ทั้งการชำระคืนและการซื้อคืนก่อนกำหนด) รวมถึงภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากสภาวะอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน

 

 

ในช่วงสิ้นปี 2567 หนี้ต่างประเทศของสาธารณรัฐเช็กเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แตะระดับ 5.271 ล้านล้านคอรูน่า หรือร้อยละ 65.8 ของ GDP จากเดิมร้อยละ 61.1 ในปี 2566 โดยร้อยละ 77.2 ของหนี้ดังกล่าวเป็นของภาคเอกชน ขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นหนี้ของภาครัฐ ซึ่งรวมถึงหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลค้ำประกันหรือถือหุ้น 

 

การเพิ่มขึ้นของหนี้เกิดจากการกู้ยืมของบริษัทและธนาคารเอกชนเป็นหลัก อย่างไรก็ดี สถานการณ์หนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับที่จัดการได้ เนื่องจากยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ EU และธนาคารแห่งชาติเช็กมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง ขณะเดียวกันอัตราว่างงานยังคงต่ำสุดใน EU ที่ร้อยละ 2.6 และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.4 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561 ตามการคาดการณ์ของธนาคารกลาง

 

ด้านการค้าระหว่างประเทศ เช็กมีดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ 6.8 พันล้านคอรูน่า เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.2 พันล้านคอรูน่า การส่งออกขยายตัวร้อยละ 9.1 โดยเฉพาะในหมวดคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และออปติคัล ขณะที่การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 8.5 โดยเช็กได้ดุลการค้าจากประเทศใน EU แม้จะลดลง 4 พันล้านคอรูน่า ขณะที่การขาดดุลการค้ากับประเทศนอก EU ลดลง 6.1 พันล้านคอรูน่า ทำให้ภาพรวมยังคงเป็นบวก 

 

โดยเฉพาะในหมวดน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ เครื่องจักร และไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ยังมีการขาดดุลในหมวดโลหะ ผลิตภัณฑ์โลหะ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อยู่ที่ร้อยละ 3.2 ของ GDP และการลงทุนของเช็กในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 55.2 พันล้านคอรูน่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 (ข้อมูล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 25 เมษายน 2568