ทรัมป์ ปลุกแนวคิดเกราะป้องกันขีปนาวุธขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยงบกว่า 1.75 แสนล้านดอลลาร์ Golden Dome ถูกเปรียบเทียบกับแผนยุคสงครามเย็นของโรนัลด์ เรแกน ในชื่อ Star Wars

 

วิสัยทัศน์ด้าน ระบบป้องกันขีปนาวุธ ฉบับใหม่ของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีชื่อว่า “Golden Dome” กำลังถูกนำไปเปรียบเทียบกับโครงการยุคสงครามเย็นที่เคยสร้างทั้งแรงบันดาลใจและการถกเถียงอย่างเข้มข้นเมื่อกว่า 40 ปีก่อน

 

เช่นเดียวกับที่ โรนัลด์ เรแกน เคยเสนอเกราะป้องกันขีปนาวุธแบบล้ำอนาคตเพื่อทำให้อาวุธนิวเคลียร์หมดความจำเป็น ทรัมป์กำลังเสนอระบบหลายชั้นที่ทะเยอทะยานครั้งใหม่ ซึ่งจะนำอาวุธของสหรัฐฯ ขึ้นไปติดตั้งในอวกาศเป็นครั้งแรก

 

บรรดานักวิจารณ์ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณอันตรายที่คุ้นเคย งบประมาณที่พุ่งสูง เทคโนโลยีที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ และความเสี่ยงที่จะกระตุ้นการแข่งขันอาวุธรอบใหม่

 

Golden Dome ของทรัมป์ vs SDI ของเรแกน :

 

ปี 1983 ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เปิดตัวโครงการ Strategic Defense Initiative (SDI) ซึ่งเป็นข้อเสนอที่กล้าหาญในการปกป้องสหรัฐฯ จากการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ โดยใช้เลเซอร์และระบบสกัดกั้นในอวกาศ เทคโนโลยีเหล่านั้นยังไม่มีอยู่จริงในตอนนั้น แต่วิสัยทัศน์ก็ชัดเจน การสร้างเกราะป้องกันที่สามารถตรวจจับและทำลายขีปนาวุธที่ยิงเข้ามาในทุกระยะของการบิน

 

นักวิจารณ์ตั้งชื่อโครงการนี้ว่า “Star Wars” โดยอ้างว่าแนวคิดนั้นใกล้เคียงกับนิยายวิทยาศาสตร์มากกว่าจะเป็นระบบป้องกันที่ใช้ได้จริง ถึงอย่างนั้นโครงการนี้ก็มีอิทธิพลต่อการถกเถียงด้านยุทธศาสตร์ในยุค 1980 และส่งผลต่อการเจรจาอาวุธระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต

 

ขณะนี้ Golden Dome ของทรัมป์สะท้อนความทะเยอทะยานแบบเดียวกัน แต่ครั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีดาวเทียมที่ก้าวหน้ากว่า ราคาที่เสนอไว้ 175,000 ล้านดอลลาร์ และความตั้งใจชัดเจนที่จะล้ำหน้ากว่ารัสเซียและจีนในด้านขีปนาวุธ

 

ตามตัวเลข งบประมาณที่ประเมินไว้สำหรับ SDI ของเรแกน ในช่วงปี 1980 อยู่ระหว่าง 60,000–100,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Golden Dome ของทรัมป์ประเมินเริ่มต้นที่ 175,000 ล้านดอลลาร์

 

สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ระบุว่า เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับอวกาศอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 542,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 20 ปี โดยทรัมป์กำลังดำเนินการขอใช้งบเริ่มต้น 25,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านร่างกฎหมายลดภาษีที่เสนอ

 

Star Wars สู่ Golden Dome :

 

พลเอกแชนซ์ ซอลต์ซแมน หัวหน้ากองทัพอวกาศสหรัฐฯ กล่าวต่อสมาชิกสภา ว่า Golden Dome จะต้องใช้ภารกิจที่ไม่เคยมีองค์กรด้านอวกาศของกองทัพทำได้มาก่อน

 

ขณะเดียวกันนักวิจารณ์ชี้ว่า แม้ทรัมป์ตั้งเป้าให้ระบบนี้ใช้งานได้เต็มรูปแบบภายในปี 2029 เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเองก็ยอมรับว่า ยังอยู่ในขั้นแนวคิดเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม เรแกนก็เคยเผชิญกับแรงต้านจากนักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม และผู้นำระหว่างประเทศที่ตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ของระบบครอบคลุมเช่นนั้น ความยืนกรานของเขาที่จะรักษาโครงการ SDI เอาไว้ ยังมีรายงานว่าเคยขัดขวางการเจรจาอาวุธสำคัญกับ ผู้นำโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ

 

ทั้ง SDI และ Golden Dome เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีทางทหารที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งที่มีอยู่จริงในขณะนั้น

Golden Dome เช่นเดียวกับ Star Wars ก่อนหน้านี้ อาจเปลี่ยนวิธีที่สหรัฐฯ มองการป้องปรามนิวเคลียร์ ยุทธศาสตร์ทางอวกาศ และการควบคุมอาวุธระดับโลก ถ้าถูกสร้างขึ้นจริงได้

 

แม้ทรัมป์จะเลือกแนวคิดแล้ว แต่กระทรวงกลาโหมยังอยู่ระหว่างร่างข้อกำหนดของ Golden Dome โดยมีเอกสารความสามารถเบื้องต้น (Initial Capabilities Document) กำลังถูกพัฒนาโดยกองบัญชาการภาคเหนือของสหรัฐฯ เพื่อกำหนดว่าระบบนี้ต้องทำอะไรได้บ้าง

 

แม้จะทะเยอทะยาน แต่ Golden Dome ยังไม่มีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ และยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น เช่นเดียวกับ SDI ในทศวรรษ 1980 บททดสอบที่แท้จริงจะอยู่ที่คำสัญญาเหล่านี้จะผ่านการพิจารณาทางการเมือง และความเป็นจริงทางเทคโนโลยีได้หรือไม่

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568