5 เดือนแรก อ่วม "ไทย" ขาดดุลการค้า "จีน" ทะลุ 7.6 แสนล้านบาท
5 เดือนแรก ไทยขาดดุลการค้าจีนทะลุ 7.6 แสนล้าน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 แสนล้าน หลังยอดนำเข้า สินค้าวัตถุดิบ เครื่องจักรพุ่ง ส่วนไทยส่งออก มีแต่สินค้าเกษตร
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้า และปัญหาการขาดดุลการค้าของไทยกับจีนยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยภาพรวมการค้าไทยและจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปี 68 (ม.ค.-พ.ค.68) มีมูลค่า 57,709 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26.11% จากปีก่อนที่มี 45,760 ล้านดอลลาร์ โดยแยกเป็นไทยส่งออกได้ 17,208 ล้านดอลลาร์ และนำเข้า 40,501 ล้านดอลลาร์ไทยติดลบ หรือขาดดุลการค้าจีนมากถึง 23,292 ล้านดอลลาร์
“หากเปรียบเทียบสถานการณ์ปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่า แม้ตัวเลขการค้า และการส่งออกของไทยไปจีนจะเติบโตมากขึ้น แต่การนำเข้ามีการเติบโตสูงกว่า ทำให้ตัวเลขการขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มสูงกว่าปีก่อนกว่า 2 แสนล้านบาท โดยการส่งออกไทยไปจีนในช่วง 5 เดือน ขยายตัว 17.87% แต่การนำเข้าสินค้าจีนกลับเพิ่มถึง 29.98% และหากคิดเป็นเงินบาทจะพบว่า ช่วง 5 เดือนแรกไทยขาดดุลการค้าจีนไปแล้ว 7.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดดุลไป 5.46 แสนล้านบาท”
อย่างไรก็ดี สินค้าที่ไทยนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทุน วัตถุดิบ กึ่งทุน เครื่องจักร เพื่อนำมาใช้ขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต ส่วนสินค้าที่ไทยส่งออกไปจีน มากสุดเป็นคอมพิวเตอร์ แต่ที่เหลือจะเป็นสินค้าเกษตร ที่มูลค่าไม่สูงมากนัก เช่น ผลไม้ ยางพารา ไม้ มันสำปะหลัง
สำหรับสินค้าที่ไทยนำเข้าจากจีนมาก 10 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 6,920 ล้านดอลลาร์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 4,145 ล้านดอลลาร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 2,770 ล้านดอลลาร์ เคมีภัณฑ์ 2,463 ล้านดอลลาร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2,251 ล้านดอลลาร์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 1,884 ล้านดอลลาร์
สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ 1,609 ล้านดอลลาร์ แผงวงจรไฟฟ้า 1,448 ล้านดอลลาร์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ 1,369 ล้านดอลลาร์ ผลิตภัณฑ์โลหะ 1,365 ล้านดอลลาร์
ส่วนสินค้าที่ไทยส่งออกไปจีนมากสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2,934 ล้านดอลลาร์ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 2,593 ล้านดอลลาร์ ผลิตภัณฑ์ยาง 1,783 ล้านดอลลาร์ ยางพารา 977 ล้านดอลลาร์ เม็ดพลาสติก 879 ล้านดอลลาร์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 764 ล้านดอลลาร์ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง 615 ล้านดอลลาร์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 585 ล้านดอลลาร์ เคมีภัณฑ์ 583 ล้านดอลลาร์ และสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ 580 ล้านดอลลาร์
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 25 มิถุนายน 2568