ซีพี ผนึก พันธมิตร เปิดม่านงิ้วแต้จิ๋ว "มหาอุปรากร สะท้านปฐพี" ฉลองมิตรภาพไทย-จีน 50 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) โดยการนำของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) พร้อมด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมสานสัมพันธ์ไทย-จีน ครั้งแรกบนผืนแผ่นดินไทย กับการเปิดอภิมหาการแสดง ‘มหาอุปรากรสะท้านปฐพี’ สุดยอดการแสดง จากคณะอุปรากรจีนแต้จิ๋ว เมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เข้มข้นครบอรรถรส ทั้งเนื้อหา สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ตระการตา และจากความสำเร็จและได้รับผลตอบรับที่ดีจากชาวจีนและไทย
สำหรับปี 2568 นับเป็นปีสำคัญในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ซีพีได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีนสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพมหานคร

ผนึกกำลังนำศิลปะชั้นสูงของจีน “งิ้วแต้จิ๋ว” กลับมาแสดงสดครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้งในเมืองไทย ภายใต้ชุดการแสดง ‘มหาอุปรากรสะท้านปฐพี’ โดยคณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง คณะงิ้วแต้จิ๋วอันดับหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งพร้อมนำเสนอ 16 บทละครไม่ซ้ำตลอด 7 วัน พร้อมขนทัพนักแสดงและทีมงานกว่า 80 ชีวิต เพื่อเป็น “ของขวัญแห่งมิตรภาพ” ให้กับประชาชนชาวไทย และชาวจีน
นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ, ไทยเบฟเวอเรจ, ไอคอนสยาม, หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย), Tencent, ZTE, Midea
น.ส.พาน จิ่น อัครราชทูตที่ปรึกษา และกงสุลใหญ่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงานว่า การแสดงศิลปะงิ้วแต้จิ๋ว ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า
ของจีน และเป็นศิลปะที่ครองใจชาวไทยเชื้อสายจีนมายาวนาน การแสดงในครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น หากยังเสริมสร้างความเข้าใจและความใกล้ชิดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ด้านกระทรวงการต่างประเทศ นายภูบดี ลออเงิน เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยและจีนได้ประกาศให้ปี 2568 เป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน” เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หนึ่งในกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การแสดงงิ้วแต้จิ๋วครั้งนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ และซึมซับสายใยมิตรภาพที่หยั่งรากลึก
ขณะที่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ร่วมกล่าวเปิดม่านการแสดงครั้งนี้ ว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของหลายภาคส่วน มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของ “ซอฟต์พาวเวอร์” และการเชื่อมโยงมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ
โดยการจัดแสดงงิ้วแต้จิ๋ว เกิดจากดำริของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตลอด 50 ปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ไทยจีนไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเรื่องเศรษฐกิจหรือการค้า แต่ยังหยั่งรากลึกในระดับวัฒนธรรม ประเพณี และจิตใจของผู้คน งิ้วไม่ใช่เพียงศิลปะการแสดงที่งดงามและทรงคุณค่าเท่านั้นหากแต่เป็น ‘ของขวัญแห่งมิตรภาพ’ ที่สะท้อนคุณธรรมร่วมของสองชนชาติ ผ่านเรื่องราวของความรักแท้ ความกตัญญู และความจงรักภักดีซึ่งเป็นค่านิยมอันงดงามของสังคมจีนที่สอดคล้องกับจริยธรรมของสังคมไทย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า “งิ้วแต้จิ๋ว” ถือเป็นการเรียนลัดวัฒนธรรมของประเทศจีน อันนำไปสู่การสร้างรากฐานความเข้าใจที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศ
“งิ้วแต้จิ๋ว หรือเฉาโจวโอเปร่า ไม่ใช่แค่การแสดงศิลปะ ที่มีอายุกว่า 590 ปี แต่เป็นศิลปะการแสดงที่โดดเด่นและได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติที่เต็มเปี่ยมด้วยหัวใจ หวังว่าการแสดงในครั้งนี้จะเป็นของขวัญแห่งมิตรภาพที่เชื่อมโยงประชาชนไทย-จีน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกันอีก 50 ปี 100 ปี” นายศุภชัยกล่าว
‘กึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง’อุปรากรแต้จิ๋วอันดับ 1 ของจีน
สำหรับ ‘คณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง’ จากซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ถือเป็นคณะอุปรากรแต้จิ๋วอันดับ 1 ของจีน มีบทบาทสำคัญในการแสดง “งิ้วแต้จิ๋ว” เป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่กว่า 590 ปี มีต้นกำเนิดจากภาคใต้ของจีนในยุคราชวงศ์ซ่งและหยวน ได้รับการขนานนามว่า “ดอกไม้แห่งภาคใต้” จนกลายเป็นมรดกวัฒนธรรมสำคัญและสายใยเชื่อมโยงจิตวิญญาณของชาวแต้จิ๋วกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก

เคยจัดแสดงทั่วโลก อาทิ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงในประเทศไทย เป็นหนึ่งในคณะงิ้วแต้จิ๋วที่ประสบความสำเร็จที่สุดในแวดวงงิ้วจีนยุคใหม่
คัดสรรเรื่องเด่นแน่น7วัน พร้อมคำบรรยาย 2 ภาษา
การแสดง ‘มหาอุปรากรสะท้านปฐพี’ เพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปี สายสัมพันธ์ไทย-จีน ผ่านศิลปะวัฒนธรรมชั้นสูง จากคณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง อันดับหนึ่งของเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน จะเปิดม่านการแสดงในประเทศไทย บนเวทีทรู ไอคอนฮอลล์ ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 10-16 กรกฎาคม 2568 ได้คัดสรร เรื่องเด่น สะท้อนคุณธรรม ความเสียสละ และการยืนหยัดในความยุติธรรม ตลอด 7 วันเต็ม พร้อมคำบรรยายภาษาไทย-จีน
(1)ยุทธภูมิ “สี่หนึ่งจิว” – พลังหญิงนักรบ (แสดงวันที่ 10 กรกฎาคม 2568)
เรื่องราวของ “ตั่งเปี๊ยะเนี้ย” ภรรยาของแม่ทัพเตียตั๊ก ที่กลายเป็นต้นแบบของสตรีผู้กล้าหาญ ในช่วงปลายราชวงศ์ซ่งใต้ ขณะที่สามีหมดศรัทธาต่อราชสำนัก ตั่งเปี๊ยะเนี้ยกลับปลุกเร้าให้สามีลุกขึ้นสู้เพื่อชาติ แม้สุดท้ายกองทัพพ่ายแพ้ เธอก็ยังเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องชาวบ้านจากกองทัพหยวน
(2)มเหสีฮั่งบุ๊ง-ยุติธรรมเหนือสายเลือด (แสดงวันที่ 11 กรกฎาคม 2568)
“โต้วจี” ฮองเฮาแห่งราชวงศ์ฮั่น ต้องเผชิญการตัดสินใจอันเจ็บปวด เมื่อน้องชายตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าเจ้าหน้าที่ เพราะถูกหลอกโดยพ่อค้าเจ้าเล่ห์ แม้รักและห่วงน้องเพียงใด โต้วจีก็ยืนกรานให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อธำรงความยุติธรรมในแผ่นดิน
3.กตัญญูสู้อยุติธรรม-สะใภ้ผู้กล้าต่อกรอำนาจ (แสดงวันที่ 12 กรกฎาคม 2568)
“เหี่ยเหง็กบ๊วย” ต้องตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าแม่สามี หลังถูกใส่ร้ายโดยบุตรชายของเสนาบดีใหญ่ที่ลวนลามเธอแล้วฆ่าคนปิดปาก เหง็กบ๊วยถูกตัดสินประหาร ทว่าในวินาทีสุดท้ายพยานผู้รับใช้ปรากฏตัวเปิดโปงความจริง จอหงวน “โกวเค่งฮุ้ง” ซึ่งเป็นสามีของเธอ ตัดสินคดีอย่างเที่ยงธรรม แม้ต้องท้าทายอำนาจเสนาบดี

(4)พระโมคคัลลานะโปรดโยมมารดา-กตัญญูสุดหัวใจ
(แสดงวันที่ 13 กรกฎาคม 2568)
“หมักเลี้ยง” หรือพระโมคคัลลานะ เสี่ยงชีวิตลงนรกเพื่อช่วยแม่ “ลิ้วซี” ที่ถูกลงทัณฑ์เพราะเคยทำบาปไว้มาก หมักเลี้ยงใช้ความดีและความพยายามฝ่าด่านยมโลก จนเหล่ายมทูตเห็นความกตัญญูอันยิ่งใหญ่และยอมปล่อยมารดา
(5)องค์หญิงโป๊ยป้อกับเต็กเช็ง-หน้าที่เหนือความรัก
(แสดงวันที่ 14 กรกฎาคม 2568)
ในยุคสงคราม “เต็กเช็ง” ทหารกล้าชาวซ่ง กับองค์หญิงโป๊ยป้อแห่งเมืองพันธมิตร เสี่ยงเสียง พบรักกันกลางสมรภูมิ แต่เต็กเช็งปฏิเสธการแต่งงาน เพราะห่วงบ้านเมือง และไม่ต้องการทำผิดกฎราชสำนัก องค์หญิงเข้าใจผิดและพยายามตามกลับมา ภายหลังทั้งสองจึงคืนดีเพราะเข้าใจในหน้าที่ของกันและกัน แสดงถึงการเสียสละความรักส่วนตัวเพื่ออุดมการณ์ของชาติ
(6)รวม 10 ไฮไลต์แห่งคุณธรรม
(15 กรกฎาคม 2568)
นำเสนอ 10 เรื่องสั้นคัดพิเศษ ที่แต่ละเรื่องล้วนแฝงคุณค่าทางจริยธรรม โดยมี 4 เรื่องเด่น อาทิ หวนพบกันที่นครหลวง-เรื่องของหญิงสาวที่เลือกความรักและสติปัญญามากกว่ายศศักดิ์ โดยยอมออกจากบ้านผู้มีอำนาจเพื่อใช้ชีวิตกับชายยากจนที่ตนรัก กระทั่งเขาได้เป็นจอหงวนและกลับมารับเธอไปใช้ชีวิตร่วมกัน สะท้อนว่าความเพียรและความจริงใจนำพาสู่ความสุขที่แท้จริง และสัญญารักในสวนดอกไม้-ความรักวัยเยาว์ของ “ซูหลักนึง” กับญาติหนุ่มที่เติบโตมาด้วยกัน และสาบานรักกันก่อนแยกจากไปสอบจอหงวน
(7)พยัคฆ์ปักไหม
(แสดงวันที่ 16 กรกฎาคม 2568)
วันสุดท้าย ปิดท้ายด้วยชุดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ ‘พยัคฆ์ปักไหม’ เรื่องราวดัดแปลงจากวรรณกรรมจีนอมตะ “สามก๊ก” โดยมี “เฉาจื้อ” กวีผู้มีพรสวรรค์แห่งปลายราชวงศ์ฮั่นเป็นตัวเอก “พยัคฆ์ปักไหม” เป็นสมญานามที่ “โจโฉ” ตั้งให้กับบุตรชายผู้นี้ สื่อถึงความประณีตละเอียดอ่อน ทว่าทรงพลังดั่งเสือที่ปักด้วยไหมทอง แม้ “เฉาจื้อ” จะมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ แต่กลับพ่าย “เฉาพี” พี่ชายต่างมารดาผู้ได้รับเลือกเป็นรัชทายาท ภายหลังเฉาพีหวาดระแวงน้องชายจึงออกอุบายให้แต่งบทกวีภายใน 7 ก้าว มิฉะนั้นจะประหาร
ที่มา มติชน
วันที่ 1 กรกฏาคม 2568