นครหยินชวนเร่งสร้างเขตนำร่องเทคโนโลยี AI มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งใหม่ของจีน
เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย นครหยินชวน เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล มุ่งเน้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) การประมวลผลข้อมูลและการบริการสาธารณะอัจฉริยะ โดยฐานเศรษฐกิจดิจิทัลเมิ่งถัวหลิงได้พัฒนาระบบแสดงผลข้อมูล Real-time
ซึ่งครอบคลุมทุกขั้นตอนของกระบวนการโลจิสติกส์ตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อจนไปถึงการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ ฐานข้อมูลดังกล่าวยังมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายน้ำมันและก๊าซรวมกว่า 2.21 พันล้านหยวน และมีการจ่ายเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในการซื้อน้ำมันและก๊าซรวมทั้งสิ้น 49.2 ล้านหยวน
บริษัท Ningxia Mengtuoling Technology Co., Ltd ได้นำเทคโนโลยี Big Data Blockchain และ Internet of Thing (IoT) มาประยุกต์ใช้กับแพลตฟอร์ม “ฐานเศรษฐกิจดิจิทัลเมิ่งถัวหลิง” เพื่อเชื่อมโยงผู้ว่าจ้างกับคนขับรถขนส่งได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในภาคโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ขับขี่ลงทะเบียนกว่า 780,000 ราย และมีเจ้าของสินค้าร่วมใช้งานกว่า 4,000 ราย นอกจากนี้ นครหยินชวนยังเดินหน้าสร้าง “เขตสาธิตนวัตกรรมด้าน AI ระดับประเทศ” ผ่านโครงการ “การเสริมพลังอุตสาหกรรมด้วย AI”
โดยบรูณาการเทคโนโลยี AI เข้ากับภาคอุตสาหกรรม การบริการประชาชน และการบริหารภาครัฐ เน้นกลยุทธ์ “สมรรถนะการประมวลผล+สถานการณ์ใช้งาน+ระบบนิเวศ” พร้อมส่งเสริมการพัฒนาโมเดล AI ขนาดใหญ่และสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน
ซึ่งโรงเรียนมัธยมเป๋ยถ่า (Yinchuan Beita Middle School) ในนครหยินชวนได้พัฒนา “โรงเรียนอัจฉริยะ” อย่างเป็นระบบ ใช้ข้อมูลจากระบบความปลอดภัยอัจฉริยะในการวิเคราะห์พฤติกรรมนักเรียนช่วงพักกลางวันในด้านการเรียนการสอน ห้องตรวจข้อสอบอัจฉริยะที่ช่วยให้ครูตรวจแบบฝึกหัดเสร็จภายใน 20 นาที จากเดิมที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
พร้อมให้คำแนะนำด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ครูสามารถวางแผนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบัน โรงเรียนมีระบบคลังทรัพยากรดิจิทัลที่ครอบคลุมเนื้อหาวิชาต่าง ๆ พร้อมเอกสารประกอบการสอนกว่า 150,000 รายการ ที่สามารถสืบค้นได้ตามแผนผังความรู้ของแต่ละวิชา ถือเป็นการยกระดับการเตรียมการสอนและการเรียนรู้ในโรงเรียนอย่างมีระบบ
นครหยินชวน ได้พัฒนาระบบ “การอนุมัติแบบไร้เจ้าหน้าที่” ผ่านเว็บไซต์บริการภาครัฐ ช่วยให้การขออนุญาตต่าง ๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เช่น การออกใบอนุญาตด้านสาธารณสุขใช้เวลาเพียง 3 นาที พร้อมทั้งพัฒนา “ป้ายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับบริการภาครัฐ” ควบคู่กับระบบนำทางอัจฉริยะที่สามารถแนะนำขั้นตอนการติดต่อราชการได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังได้รับการยกย่องในระดับประเทศจากโครงการ “อินเทอร์เน็ตพลัสบริการภาครัฐ” ซึ่งให้บริการอัตโนมัติกว่า 10 รายการหลักที่เคยใช้เวลานานในการดำเนินการ ซึ่งในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล นครหยินชวนได้ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มอุตสาหกรรมอิเตอร์เน็ตจำนวนมากในภาคการผลิต มีโรงงานอัจฉริยะและสายการผลิตดิจิทัลคิดเป็นร้อยละ 50 ของทั้งเขตฯ หนิงเซี่ย
อีกทั้งยังมีบริษัทที่ให้บริการสุขภาพผ่านระบบอินเทอร์เน็ตถึง 192 แห่ง และมีโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นฐานการศึกษาด้าน AI ระดับชาติ รวมถึงการจัดตั้ง “นครแห่งสมรรถะการประมวลผล” และพัฒนาแพลตฟอร์มการวิจัย “สองสถาบันหนึ่งศูนย์” เพื่อสร้างระบบนิเวศ AI และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เมืองอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์ (ข้อมูล สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน, เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)
ที่มา globthailand
วันที่ 2 กรกฏาคม 2568