เอกชนเร่งรัดทีมไทยแลนด์ เจรจาภาษีกับสหรัฐให้ทัน 1 ส.ค.นี้
หอการค้าไทยขอเร่งรัดทีมเจรจาของไทย เพื่อให้ทันเส้นตายการเจรจาภาษีไทย-สหรัฐภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้ รวมไปถึงปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย หวังว่าการหารือภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ณ ประเทศกัมพูชาเป็นไปในทิศทางที่ดี
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เอกชนยังให้ห่วงใย เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเตรียมนำมาตรการภาษีใหม่ ภายใต้กรอบ “Trump Tariff 2.0” มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมส่งออกและการลงทุนร่วมระหว่างประเทศ ซึ่งล่าสุดทีมไทยแลนด์ได้ส่งข้อเสนอฉบับปรับปรุงสุดท้ายของฝ่ายไทยต่อรัฐบาลสหรัฐแล้ว โดยเป็นข้อเสนอที่สะท้อนความพยายามในการรักษาดุลยภาพด้านการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ และควรจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากฝ่ายสหรัฐอเมริกา
ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แม้จะเพิ่งคลี่คลาย และนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงเรียบร้อยแล้ว แต่ก็จะยังมีความไม่ไว้วางใจ และยังมีข้อกังวลจากฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง แต่ภาคเอกชนไทยขอสนับสนุนให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทน อดกลั้น และดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ภายใต้กลไกความร่วมมือของอาเซียน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะซ้ำ และความสูญเสียอันไม่จำเป็น เราเชื่อมั่นว่าการดำเนินการตามหลักสากล ยึดหลักมนุษยธรรม และสิทธิมนุษยชนอย่างจริงใจของประเทศไทย จะปรากฏชัดต่อนานาประเทศ และขอให้ทางกัมพูชาเคารพ ยึดข้อตกลงการหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน
โดยเอกชนหวังว่าการหารือภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ณ ประเทศกัมพูชา จะเป็นอีกก้าวที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่าง 2 ประเทศ และนำไปสู่แนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อปัญหาที่ค้างคาได้
แต่อย่างไรก็ดี ภาคเอกชนขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งรัดเจรจาทางเศรษฐกิจในทุกกรอบ โดยเฉพาะประเด็นภาษีกับสหรัฐที่มีเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมอยู่เบื้องหน้า เราเชื่อมั่นว่าข้อเสนอของฝ่ายไทยในครั้งนี้มีความเหมาะสม สมดุล และอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ จึงอยากขอให้ฝ่ายเจรจาไทยเร่งหาข้อสรุปอัตราภาษีจากสหรัฐอย่างเป็นธรรมโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจลงทุนของภาคธุรกิจหลังจากเส้นตายดังกล่าว
พร้อมกันนี้ ภาคเอกชนไทยยังมีความเชื่อมั่นว่าสหรัฐอเมริกาในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยจะพิจารณานโยบายด้านภาษี การค้า และการลงทุนกับประเทศคู่ค้าในภูมิภาคนี้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส และมั่นคง เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถวางแผนและขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างมั่นใจและต่อเนื่อง
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 29 กรกฏาคม 2568