เอกชน เตือน ไทยเสี่ยงหลุดผู้นำท่องเที่ยวอาเซียน แนะต้องลงทุนจัดอีเวนต์ใหญ่ดึง นทท.
นายเควิน เคลย์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายแบรนด์ กาแล็กซี่ รีสอร์ต ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยกำลังเผชิญกับภาวะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) คาดการณ์ว่าปี 2568 จะหดตัวลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และลดลง 17.5% จากจุดสูงสุดของการท่องเที่ยวไทยที่ 40 ล้านคนในปี 2562
นายเควิน กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวม ลดลง 7% โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก ซึ่งลดลง 9.5% และ 25.9% ตามลำดับ ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา และเอเชียใต้มีการเติบโต แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยส่วนที่ ลดลงไปในตลาดหลัก
ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีการเติบโตต่ำกว่าประเทศคู่แข่งในเอเชีย ซึ่งอาจเป็นผลมา จากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจท่องเที่ยว และ ความกังวลด้านความปลอดภัย และค่าครองชีพในประเทศไทยที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างมาเก๊า, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เวียดนาม, และสิงคโปร์ ซึ่งกลับมาเติบโตและฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังช่วงโควิด โดยเฉพาะเวียดนามที่เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูงได้เพิ่มขึ้น
นายเควิน กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีความก้าวหน้า แต่ยังขาดความชัดเจนในแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในระยะยาว จึงจำเป็นต้องลงทุนสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่งในภูมิภาค โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวแห่งอนาคต และจะต้องมีการจัดอีเวนต์ใหญ่ๆ ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยยกตัวอย่างล่าสุด ที่ ทาง กาแล็กซี่ รีสอร์ต ประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดคอนเสิร์ตให้กับศิลปินชื่อดังระดับโลก อย่าง แจ็คสัน หวัง ใน Jackson Wang MAGICMAN 2 WORLD TOUR 2025 – 2026 ซึ่งมาจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเดือนตุลาคม 2568 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า กรุงเทพฯ
นายเควิน กล่าวว่า การจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มมีกำลังซื้อสูงจากต่างประเทศเข้ามาในไทยได้ด้วย พร้อมย้ำว่าการลงทุนในอีเวนต์ขนาดใหญ่ ไม่ต่างจากการสร้างแบรนด์ให้กับประเทศ
นายเควิน กล่าวว่า หากประเทศไทยต้องการยกระดับสู่การเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตนมองว่าการจัดอีเวนต์ระดับโลกถือเป็นก้าวสำคัญ โดยภาคเอกชนพร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนแรกเริ่ม แต่ต้องการเห็นการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกลับคืนสู่ประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตนมองว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เปลี่ยนไป จากเดิมที่นิยมท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน ปัจจุบันกลายเป็นการเดินทางเพื่อเข้าร่วมคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์มากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยควรใช้เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพ
นายเควิน กล่าวว่า ในฐานะภาคเอกชนท่องเที่ยว เชื่อว่าประเทศไทยอาจจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์การท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจดังกล่าว โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เหมาะสม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้ก้าวไปอีกขั้น และต้องการเห็นวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการวางแผนกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวในระยะยาว ซึ่งในฐานะเอกชน กาแล็กซี่ รีสอร์ต พร้อมยินดีที่จะร่วมงานและให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการท่องเที่ยวหากได้รับโอกาสจากรัฐบาลในอนาคต
นายเควิน กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงมุมมองเกี่ยวกับ ความปลอดภัยในการท่องเที่ยว ตนมองว่า ทั้งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีกระบวนการสื่อสารที่ชัดเจนอย่างตรงไปตรงมา ถึงมาตรการความปลอดภัย ซึ่งส่วนนี้ อาจจะนำ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการสื่อสาร หรือ อาจจะต้องจ้างคนดังที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย หรือ ศิลปินต่างชาติที่พร้อมมานำเสนอการท่องเที่ยวไทย ในการประชาสัมพันธ์ประชาสัมพันธ์ช่วยประชาสัมพันธ์ ด้านความปลอดภัยของประเทศไทย และเสนอด้านบวก ซึ่งตรงนี้ ก็จะช่วยให้ ภาพลักษณ์ของประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางดียิ่งขึ้น
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 10 ตุลาคม 2568