นักลงทุนแห่ซื้อพันธบัตรจีน คาด "แบงก์ชาติ" จ่อผ่อนคลายนโยบายการเงิน
KEY POINTS :
* นักลงทุนทั่วโลกกลับมาสนใจซื้อพันธบัตรรัฐบาลจีน
* ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน
* ธนาคารกลางอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัตรากันสำรอง (RRR)
* การผ่อนคลายนโยบายนี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผยว่า พันธบัตรจีนกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวจากแรงกดดันทางการค้า
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีของจีนปรับลดลงติดต่อกันใน 5 จาก 6 วันทำการล่าสุด ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเดือนเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) และทรงตัวในวันถัดมา ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีก็ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นในตลาด
หลิว อวี่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์ Huaxi Securities ระบุว่า ตลาดเริ่มคาดการณ์ถึงการปรับลดดอกเบี้ยและอัตราส่วนกันสำรองของธนาคารในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยมองว่า PBOC จะดำเนินการผ่อนคลายหลังการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ หรือเมื่อข้อมูลเศรษฐกิจแสดงสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น

สถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังทั้งสองประเทศเริ่มจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีและวัตถุดิบสำคัญระหว่างกัน ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ มีกำหนดหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะอาจพบปะกันเพื่อหาทางคลี่คลายความตึงเครียด
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจจีนในสัปดาห์นี้ยังไม่สามารถคลายความกังวลของนักลงทุนได้ แม้การส่งออกที่เติบโตแข็งแกร่งจะช่วยหนุนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน แต่ยอดค้าปลีกกลับขยายตัวในอัตราช้าที่สุดตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีก่อน และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยังหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563
บรรดานักวิเคราะห์จับตาการประชุมทางการเมืองสำคัญในกรุงปักกิ่งสัปดาห์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะหารือถึงกรอบนโยบายหลักของ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 15” ซึ่งจะเป็นเข็มทิศสำคัญของเศรษฐกิจจีนในระยะต่อไป
หลี่ อี้ซวง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Cinda Securities ระบุว่า หากมาตรการการคลังของรัฐบาลยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน ธนาคารกลางอาจจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ Huaxi Securities ชี้ว่า ในช่วงสามปีที่ผ่านมา PBOC มักปรับลดดอกเบี้ยและอัตรากันสำรองปีละสองครั้ง โดยในปีนี้มีการปรับลดเพียงครั้งเดียวเมื่อเดือนพ.ค. หลังจากเกิดแรงกระแทกจากมาตรการภาษีทั่วโลกของสหรัฐ
จากการสำรวจของบลูมเบิร์ก เมื่อกลางเดือนก.ย. พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า PBOC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.10 จุด และลดอัตรากันสำรองอีก 0.50 จุดภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นักลงทุนบางส่วนมองว่า การเทขายหุ้นจีนในเดือนต.ค.อาจเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันให้ PBOC เร่งออกมาตรการผ่อนคลาย เพื่อพยุงตลาดการเงินและความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 22 ตุลาคม 2568