Generative AI เครื่องมือเปลี่ยนธุรกิจ SMEs ให้คล่องตัวและเติบโต
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงเร็ว การปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ finbiz by ttb จึงแนะโอกาสในการใช้ Generative AI เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและกลางทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
AI ช่วยคนให้ทำงานได้ดีขึ้น… ไม่ได้มาเพื่อแย่งงาน :
ในความคิดของหลายคนอาจมองว่า AI คือ ภัยคุกคามต่อการจ้างงานมนุษย์ ซึ่งหากชุดความคิดนี้อยู่กับพนักงานแล้วอาจบั่นทอนกำลังใจในการทำงาน ผู้ประกอบการจะต้องสร้างชุดความคิดใหม่ให้พนักงานรับรู้ว่า AI ไม่ได้มาแย่งงาน แต่คือผู้ช่วยที่ทรงพลัง สำหรับคนที่ใช้งานเป็น โดยเฉพาะกับ SMEs ที่ต้องทำหลายหน้าที่ในคนเดียว การมี AI มาช่วยคิด วางแผน หรือจัดการงานซ้ำ ๆ จะช่วยให้เจ้าของกิจการมีเวลามากขึ้นในการพัฒนาธุรกิจ
“ทักษะเสริม” สำคัญสำหรับคนที่ใช้ AI จำเป็นต้องมี คือ
1)ทักษะการสื่อสารและเข้าใจคน เพื่อให้สามารถใช้ AI สื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2)ทักษะด้านเทคโนโลยี เพื่อเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับรูปแบบของงาน
3)ทักษะเฉพาะทางในธุรกิจของตนเอง เพื่อควบคุมและตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI ให้ตรงเป้าหมาย
เริ่มต้นใช้ AI ในธุรกิจ SMEs แบบเป็นขั้นตอน
การนำ AI มาใช้ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงตั้งแต่แรก SMEs สามารถเริ่มต้นจากระดับพื้นฐาน แล้วค่อย ๆ ขยายการใช้งานให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยพนักงานในองค์กรควรจะมีความชำนาญในการใช้งาน 3 ระดับ
1.AI เป็นผู้ช่วยคิดงาน
เริ่มต้นจากการใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยคิด วางแผน และตัดสินใจในงานประจำ เช่น การประชุม การจัดทำเอกสาร หรือการเสนอไอเดีย ช่วยลดภาระงานที่ต้องใช้เวลาและแรงงานคน
Advertisement
2.AI เป็นผู้สร้างผลงาน
ต่อยอดการใช้งานโดยเลือกเครื่องมือ AI ที่เหมาะกับแต่ละงาน เช่น การออกแบบ การเขียนคอนเทนต์ หรือการวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมใส่ข้อมูลเชิงลึก (Insight) เพื่อให้ผลลัพธ์มีคุณภาพและแตกต่าง
3.AI เป็นระบบเชื่อมต่อธุรกิจ
ในระดับองค์กร AI ถูกนำมาเชื่อมโยงกับระบบงาน เช่น ระบบผลิต ระบบขาย หรือระบบบริการ เพื่อสร้างโครงสร้างการทำงานให้เป็นอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูง แม้ต้องลงทุนเพิ่ม แต่ผลตอบแทนคือความคล่องตัวและการเติบโตในระยะยาว
ตัวอย่างการใช้ AI ที่ SMEs นำไปปรับใช้ได้จริง
หลายธุรกิจ SMEs เริ่มเห็นผลลัพธ์จากการใช้ AI เช่น
-ร้านค้าปลีก :
ใช้ AI วิเคราะห์ยอดขายและแจ้งเตือนสินค้าคงคลัง ช่วยลดของเสียและเพิ่มยอดขาย
-ร้านอาหาร :
ใช้ AI แนะนำเมนูตามความชอบของลูกค้า เพิ่มยอดสั่งซื้อเฉลี่ยต่อคำสั่ง
-ธุรกิจผลิต :
ใช้ AI ตรวจสอบคุณภาพสินค้าแทนการใช้คน ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการผลิต
SMEs ต้องเริ่มเปิดรับและเข้าถึงเทคโนโลยี :
SMEs ยุคใหม่เริ่มใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น เช่น การเข้าถึงระบบออนไลน์ การใช้ระบบวิเคราะห์ง่าย ๆ ที่มาพร้อมกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือแอปพลิเคชั่นจัดการร้านค้าของธนาคาร อย่าง ttb smart shop ที่นำมาช่วยระบบงานหน้าร้านได้เป็นอย่างดี
โดยปัจจุบันแอปพลิเคชั่นดังกล่าวยังมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษวิเคราะห์ยอดขายแบบเจาะลึก ช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น พร้อมระบบรับชำระเงินผ่าน QR Code จากทุกธนาคาร เงินเข้าทันที และแจ้งเตือนแบบ Real-time อีกทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิการใช้งานให้พนักงาน รองรับระบบสาขา และสร้าง QR Code ได้หลายรูปแบบ ตอบโจทย์การใช้งานในร้านค้าได้อย่างครบถ้วน
ระบบเหล่านี้เข้าถึงง่ายขึ้นกว่ายุคก่อนมาก ซึ่งหาก SMEs ที่ยังไม่มีสิ่งเหล่านี้ ปัจจุบันจำเป็นต้องเริ่มมองหา โดยอาจเริ่มจากการสอบถามเจ้าหน้าที่บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจของธนาคารที่ธุรกิจใช้บริการเป็นประจำ
ดังนั้น สิ่งที่ SMEs ต้องเข้าใจเกี่ยวกับ Generative AI :
-AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือที่พร้อมใช้งานในโลกยุคนี้
-การเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เริ่มจากงานเล็ก ๆ ที่ทำซ้ำบ่อย ๆ แล้วค่อยขยายไปสู่ระบบที่ใหญ่ขึ้น
-มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการควบคุม ตรวจสอบ และตัดสินใจ
เมื่อใช้ AI ได้อย่างชำนาญ SMEs จะสามารถทำงานได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และพร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกยุคปัจจุบัน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 20 ตุลาคม 2568

