บีโอไอลงนาม "China EV100" ฉบับแรกในอาเซียน ยกไทยสู่ซัพพลายเชน EV โลก
บีโอไอจับมือ China EV100 องค์กรส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน ร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลาง EV ครบวงจรของอาเซียน พร้อมเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา และการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจีน
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 บีโอไอได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับนายจาง หยงเหว่ย รองประธานและเลขาธิการ สถาบันพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ (China EV100) ซึ่งเป็นคลังสมอง (Think Tank) และเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีน นับเป็น MOU ฉบับแรกที่ China EV100 ลงนามกับประเทศในอาเซียน
โดยมี 8 องค์กรพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ กรมสรรพสามิต สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน สถาบันยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม และหารือความร่วมมือกับ China EV100 ในครั้งนี้ด้วย

การลงนาม MOU ระหว่างบีโอไอกับ China EV100 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถและเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
โดยจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทาง การจัดทำนโยบายเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน การเสริมสร้างการแข่งขันที่สมดุลและเป็นธรรม การพัฒนาบุคลากรและระบบนิเวศทั้งด้านการผลิต การจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว การพัฒนาระบบอัดประจุไฟฟ้าและระบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ การยกระดับผู้ประกอบการไทยผ่านความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจีน
การสร้างกลไกสนับสนุนการร่วมลงทุนระหว่างจีน-ไทย การจัดกิจกรรมและเวทีความร่วมมือทั้งในประเทศไทยและจีน เช่น การจัด Thailand-China EV Forum ภายในงาน SUBCON Thailand ในเดือนพฤษภาคมของทุกปี และการเข้าร่วมงาน China EV100 Forum ที่ประเทศจีน ในเดือนมีนาคมของทุกปี
“ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรฝ่ายไทยกับ China EV100 ในครั้งนี้ จะช่วยให้ไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ทั้งด้านนโยบายและวิธีการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีน อีกทั้งจะเป็นสะพานเชื่อมผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน และเป็นช่องทางสะท้อนความคิดเห็นจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้การจัดทำนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ EV มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย”
นายจาง หยงเหว่ย รองประธานและเลขาธิการ China EV100 เปิดเผยว่า การร่วมมือในครั้งนี้มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งจีนและไทย โดย China EV100 พร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์ของไทยในการเป็นศูนย์กลาง EV ในอาเซียน และยินดีที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการจีนให้เพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทย รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง
เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจีนให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงไม่กลัวเรื่องการถูกลอกเลียนแบบเหมือนกิจการอื่น ๆ อีกทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกิดการผลิตที่ไทย จะช่วยลดความเสี่ยงจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วยตัวเอง และยังสามารถเพิ่มความเร็วในการผลิตออกสู่ตลาดด้วย จึงมีโอกาสสูงที่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต จะมุ่งเน้นการพัฒนาระบบอัจฉริยะของรถยนต์มากขึ้น ก็จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเข้ามามีบทบาทพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2568 บีโอไอได้ให้การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและกิจการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 1.4 แสนล้านบาท ครอบคลุมกิจการผลิตรถยนต์ BEV 21 โครงการ เงินลงทุนรวม 40,449 ล้านบาท กิจการผลิตแบตเตอรี่ 54 โครงการ เงินลงทุนรวม 79,473 ล้านบาท กิจการผลิตชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ เช่น Traction Motor, BMS DCU, Inverter, On-ฺBoard Charger 45 โครงการ เงินลงทุนรวม 10,002 ล้านบาท กิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 32 โครงการ เงินลงทุนรวม 6,066 ล้านบาท
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 22 ธันวาคม 2568

