ประธานส.อ.ท.รับกำลังผลิตลดต่ำกว่า 60% สะเทือนโบนัส-จ้างงาน
KEY POINTS :
* ประธาน ส.อ.ท. ยอมรับว่ากำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่องจนต่ำกว่า 60% จากมาตรฐานเดิมที่ 70-80%
* สาเหตุหลักเกิดจากปัญหาสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศทะลักเข้ามาตีตลาด และการสวมสิทธิ์ส่งออก (Transshipment) ที่ทำให้ตัวเลขส่งออกสูงแต่การผลิตจริงไม่เพิ่มขึ้น
* กำลังการผลิตที่ลดลงส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคแรงงาน ทำให้การจ้างงาน การขึ้นเงินเดือน และการจ่ายโบนัสโดยรวมลดลงอย่างชัดเจน
* แม้จะมีข่าวโรงงานบางแห่งจ่ายโบนัสสูง แต่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ ขณะที่โรงงานทั่วไปจำนวนมากมีผลประกอบการแย่ลงจนต้องลดการจ้างงาน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงประเด็นเรื่องของกำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยกล่าวยอมรับว่า ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะหลังค่าเฉลี่ยก็ยังไม่ดีขึ้น แม้ว่ายอดการส่งออกจะเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่ง
ทั้งนี้ เป็นภาพสะท้อนที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งประกอบด้วย 1.กำลังการผลิตเพื่อใช้ในการบริโภคคจริง เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงหรือ และ2.การส่งออกที่เพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงภาคการผลิตซึ่งวัดได้จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ Manufacturing Production Index (MPI) ยังไม่กระเตื้อง แม้จะมีการส่งออกจำนวนมาก
ดังนั้น จึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่าการส่งออกจำนวนมากมาจากไหน ซึ่งเมื่อเจาะลึกลงไปก็พบว่าตรงกับปัญหาเรื่องของการสวมสิทธิ์ (Transshipment)
นอกจากนี้ ที่สำคัญคัญก็คืออุตสาหกรรมภายในประเทศได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าราคาถูกจำนวนมากจากต่างประเทศเข้ามา ทั้งสินค้าที่มีคุณภาพและไม่มีคุณภาพซึ่งยังอยู่ในอัตราสูง โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงช่วงส่งออกเพิ่มขึ้น เฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาของไทยโตขึ้น 26-28% แต่ตัวเลข MPI ไม่ขยับ เมื่อไปดูในรายละเอียดปรากฏว่า มีการนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นกว่า 30%
“สินค้าดังกล่าวเหล่านี้นอกจากนำเข้ามาเพื่อส่งออกแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาทั้งที่ถูกกฏหมาย และไม่ได้ถูกบันทึกไว้เข้ามาตีตลาดเอสเอ็มอี (SMEs) หรือผู้ผลิตในประเทศที่เป็นโรงงานผลิตสินค้าต่างๆ ทำให้ต้องปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก”
อย่างไรก็ดี หากถามว่ากำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงมากน้อยแค่ไหน อย่างไร ต้องเรียนว่าจากเดิมที่มาตรฐานของกำลังการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 70-80% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 60% โดยมีส่วนเชื่อมโยงกับการจ่ายเงินเดือนภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง
นายเกรียงไกร กล่าวต่ออีกว่า โรงงานส่วนใหญ่ที่จ่ายโบนัสจำนวนมากที่ปรากฏเป็นข่าว จะเป็นบริษัทต่างชาติที่มาตั้งฐานในประเทศไทย และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีกำไรอยู่บางกลุ่ม แต่โดยเฉลี่ยทั่วไปจากผลกระทบดังกล่าวเหล่านี้ ส่งผลทำให้การจ่ายเงินเดือน การขึ้นเงินเดือน การจ้างงาน การให้โบนัสลดลงอย่างชัดเจน
“สังเกตุได้ว่าที่มีการจ่ายโบนัสจำนวนมาก และค่อนข้างสูงมีอยู่เพียงไม่กี่บริษัท และส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มาตั้งฐานผลิตในไทย และเป็นสินค้าที่ยังเป็นที่ต้องการ เช่น กลุ่มไฮเทค หรือกึ่งไฮเทค แต่หากเป็นสินค้า หรืออุตสาหกรรมทั่วไป จะสังเกตุเห็นว่าหดตัว ทำให้ผลประกอบการไม่ดี กำไรไม่มี และทำให้บางบริษัทขาดทุน ซึ่งส่งผลต่อการขึ้นเงินเดือน และการให้โบนัส และการจ้างงาน บางโรงงานถึงขั้นต้องลดกะทำงาน ลดการจ้างงาน ซึ่งน่าเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง“
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 23 ธันวาคม 2568

