จับตาด้านพัฒนาการขนส่งและโลจิสติกส์ของกว่างซี
การคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์เป็นตัวจักรที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลายมณฑลในจีนตะวันตก และจีนตอนกลาง จึงได้ร่วมกันพัฒนาและใช้ประโยชน์จากระเบียงขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลแห่งภาคตะวันตก หรือที่เรียกสั้นๆว่า NWLSC (New Western Land and Sea Corridor) เพื่อสร้างช่องทางการค้าใหม่กับต่างประเทศ
บางท่านอาจสงสัยว่า ระเบียง NWLSC คืออะไร หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ระเบียง NWLSC คือ กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนา และยกระดับการเปิดสู่ภายนอกเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของมณฑลทางภาคตะวันตกของจีน ผ่านการบูรณาการความร่วมมือและอำนวยความสะดวกด้านระบบงานขนส่งและโลจิสติกส์ในทุกมิติ โดย “เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง” ถือเป็นหนึ่งใน ‘ผู้เล่น’ ตัวสำคัญของระเบียง NWLSC จากข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้และเมืองชายแดนติดประเทศ เวียดนาม จึงเป็นเสมือน ‘ข้อต่อ’และ ‘ประตู’ บานสำคัญที่ใช้เชื่อมพื้นที่จีนตอนในกับต่างประเทศ

พัฒนาการของระเบียง NWLSC ในเขตฯ กว่างซีจ้วงเป็นอย่างไร หลังจากที่ในปี 2564 รัฐบาลกว่างซีได้ประกาศ แผนปฏิบัติการยกระดับระเบียงขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลแห่งภาคตะวันตกระยะ 3 ปี (พ.ศ.2564 –2566) เพื่อมุ่งพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ในทุกมิติทั้งการขนส่งทางเรือ ทางรถไฟ ทางถนน และทางแม่น้ำ เพื่อเสริมสร้างบทบาทการเป็น “พื้นที่แห่งโอกาส” ในการพัฒนาความร่วมมือและเปิดสู่ภายนอกกับอาเซียน และการเป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (BRI) กล่าวได้ว่าเป็นการ ‘เบิกฤกษ์’ ได้สวยตั้งแต่ต้นปี 2566 สำหรับเขตฯ กว่างซีจ้วงในการพัฒนาระเบียง NWLSC ที่มีคุณภาพสูง จากข้อมูลพบว่า ในไตรมาสแรก ปี 2566 เขตฯกว่างซีจ้วงใช้เงินลงทุนในโปรเจกต์สำคัญภายใต้กรอบระเบียง NWLSC แล้ว 19,941 ล้านหยวน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
* (1) การขนส่งทางทะเล ในไตรมาสแรก ปี 2566 กลุ่มท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้มีปริมาณขนถ่ายสินค้ารวม 68.77 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในจำนวนนี้เป็นปริมาณตู้สินค้า1.612 ล้าน TEUs เพิ่มขึ้น 14.7% (YoY) มีเส้นทางเดินเรือขนส่งตู้สินค้า 75 เส้นทาง ในจำนวนนี้ เป็นเส้นทางเดินเรือกับอาเซียน 34 เส้นทาง รวมถึงประเทศไทยด้วย
* (2) การขนส่งทางรถไฟ การขนส่งทางรถไฟของกว่างซีแบ่งได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเชื่อม ‘เรือ+ราง’ ภายในท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้ ในไตรมาสแรก ปี 2566 มีรถไฟวิ่งให้บริการสะสม 2,169 เที่ยวขบวน เพิ่มขึ้น 25% (YoY) ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายปี 2566 มีปริมาณขนถ่ายตู้สินค้าทะลุ 8 ล้าน TEUs เที่ยวรถไฟขนส่งสินค้า เชื่อม ‘เรือ+ราง’ 9,000 เที่ยว และ ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจีน (กว่างซี)-เวียดนาม ผ่านด่านรถไฟผิงเสียง ได้ถูกพัฒนารูปแบบการขนส่งทางรถไฟที่เรียกว่า “8+1” โดยนำเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยน้ำมันดีเซล มาติดตั้งแบบถาวรที่โบกี้ช่วงกลางของขบวนรถไฟ ซึ่งสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบทำความเย็นของตู้คอนเทนเนอร์เย็น ปัจจุบัน CP Fresh ของไทยและบริษัทการรถไฟได้ลงนามข้อตกลงด้านการขนส่งประจำปี ซึ่งขบวนรถไฟแบบเที่ยวประจำในแต่ละวันสามารถขนส่งผลไม้ได้มากสุดถึง 30 TEUs ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังที่จะพัฒนาความร่วมมือเชิงลึกเพื่อยกระดับปริมาณการขนส่งให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
* (3) การขนส่งทางอากาศ ด่านสนามบินหนานหนิงได้รับอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำมีชีวิตและสัตว์น้ำแช่แข็ง สัตว์น้ำมีชีวิตเพื่อการบริโภค และผลไม้สดได้ มีเที่ยวบินขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไปยัง 12 เมืองใน 8 ประเทศ ครอบคลุมอาเซียนและ เอเชียใต้
* (4) การขนส่งทางบก ความสะดวกรวดเร็วด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ภายใต้กรอบระเบียง NWLSC ในปัจุบัน ทำให้ผู้ค้าหันมานำเข้าทุเรียนไทย ผ่านภาคตะวันตกของจีน ช่วยร่นเวลาการขนส่งจากเดิมได้
สถิติในไตรมาสแรก ปี 2566 การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านด่านทางบกในเขตฯ กว่างซีจ้วง เพิ่มขึ้น 96.64% (YoY) ปริมาณรถบรรทุกสินค้าผ่านเข้า-ออก เพิ่มขึ้น 100.62% (YoY)
โอกาสของผู้ประกอบการไทย :
การพัฒนาระเบียง NWLSC ในกว่างซีมีนัยสำคัญยิ่งต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ระหว่างจีนกับต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย กล่าวได้ว่ากว่างซีเป็นพื้นที่แห่งโอกาสที่ภาคธุรกิจไทยจะสามารถ “เชื่อมต่อ” เศรษฐกิจภายในประเทศของไทยให้เข้ากับเศรษฐกิจของจีนตะวันตกผ่านระเบียง NWLSC ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการทำการค้ากับประเทศจีน โดยเฉพาะการนำสินค้าไทยไปเจาะตลาดจีนตอนกลางและภาคตะวันตก (ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง)
ที่มา globthailand
วันที่ 1 มิถุนายน 2566