Update! เศรษฐกิจไต้หวันและความสัมพันธ์กับไทย (ตอนที่ 1)
เศรษฐกิจไต้หวันยังมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จาก GDP ในไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.62 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก และคาดว่าในไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 11.33 นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไต้หวันในปี 2567 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.32 ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วโลกที่กระตุ้นให้นักลงทุนไต้หวันเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งนี้ สามารถสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจไต้หวันได้ ดังนี้
สถานการณ์เงินเฟ้อ :
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของไต้หวันในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.44 โดยมีปัจจัยหลักจากราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องด้วยผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น และราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวขึ้น
ขณะที่ธนาคารกลางไต้หวันมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.875 ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง โดยธนาคารกลางจะยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะเมื่อราคาสินค้ามีความผันผวนจากปัจจัยด้านความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการค้าโลก
การลงทุน :
การลงทุนของไต้หวันในต่างประเทศระหว่างเดือนมกราคม – กันยายน 2566 มีมูลค่ารวม 17,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 190.06 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยมีแรงหนุนหลักจากแผนการลงทุนของ TSMC ในการสร้างโรงงานผลิตชิปขั้นสูงสองแห่งในรัฐแอริโซนา
การลงทุนของไต้หวันในประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ระหว่างเดือนมกราคม – กันยายน 2566 คิดเป็นมูลค่า 4,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.49 โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในสิงคโปร์ เวียดนาม และไทย ขณะที่การลงทุนจากประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในไต้หวัน คิดเป็นมูลค่า 2,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.59 โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากสิงคโปร์ ไทย และมาเลเซีย


การจ้างงาน :
อัตราการว่างงานเฉลี่ยระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2566 คิดเป็นร้อยละ 3.53 โดยมีผู้ว่างงานทั้งสิ้น 423,000 คน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 1.27 ทั้งนี้ ตลาดแรงงานในไตรมาสที่ 3 มีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นผลจากภาคอุตสาหกรรมบริการมีความต้องการแรงงานเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจที่ลดขนาดหรือปิดกิจการมีอัตราลดลง
มูลค่าการค้า
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ไต้หวันมีปริมาณการส่งออกรวม 114,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ขณะที่ปริมาณการนำเข้ามีมูลค่ารวม 87,490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 19 ทำให้ไต้หวันได้เปรียบดุลการค้าเป็นมูลค่า 27,410 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 111.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 โดยการส่งออกในเดือนกันยายน 2566 กลับมาขยายตัวเป็นบวก และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4
สำหรับประเทศไทย การค้าระหว่างไทย – ไต้หวันในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 มีมูลค่ารวม 4,398.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออกรวมจากไต้หวันไปยังไทย 3,018.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการนำเข้ารวมจากไทยมายังไต้หวัน 1,380.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นคู่ค้าลำดับที่ 12 ของไต้หวัน
สินค้านำเข้าจากไทยมาไต้หวัน 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า มูลค่า 728.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2) อาหารปรุงสำเร็จ เครื่องดื่ม สุรา น้ำส้มสายชู และยาสูบ มูลค่า 134.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ (3) ยานพาหนะ เครื่องบิน เรือ และอุปกรณ์การขนส่ง 83.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่สินค้าส่งออกจากไต้หวันไปยังไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า มูลค่า 2,302.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2) แร่โลหะ มูลค่า 238.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ (3) พลาสติกและยาง มูลค่า 134.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย)
ที่มา globthailand
วันที่ 30 ตุลาคม 2566