ปธ.หอค้า คาดเม.ย. ยอดเดินทางเข้า-ออก พรวดโตเกิน 10% แนะเตรียมพร้อมเที่ยวบิน แผนโปรโมทสงกรานต์
ปธ.หอค้า คาดเม.ย. ยอดเดินทางเข้า-ออก พรวดโตเกิน 10% แนะเตรียมพร้อมเที่ยวบิน แผนโปรโมท "สงกรานต์" เฟสติวัลระดับโลก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวกับ มติชน ว่า ตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบ ประกาศให้วันที่ 12 เม.ย. 67 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษเพิ่มอีก 1 วัน นั้น เท่ากับมีวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ยาว 5 วัน ตั้งแต่ 12-16 เม.ย. 2567 และหากใครที่มีแผนลาต่อเนื่องรวมกับรอยต่อของวันจักรี ตั้งแต่ 6 เม.ย. 2567 ก็จะทำให้มีวันหยุดยาวมากขึ้น ซึ่งหอการค้าฯ เชื่อว่าภาพรวมจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากครั้งนี้รัฐบาลมีการประกาศให้ทราบก่อนล่วงหน้าถึง 2 เดือน ทำให้ประชาชนมีเวลาในการเตรียมตัววางแผนเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว หรือเข้าร่วมกิจกรรมตามจุดสำคัญต่าง ๆ ของประเทศ หรือแม้แต่การวางแผนท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
โดยคาดว่าช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวจะมีคนไทยเดินทางออกนอกประเทศ (Outbound) เพิ่มขึ้นอีก 10% จึงอยากเสนอให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมในการรองรับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกระหว่างประเทศให้มีความเหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศ (Domestic) เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่า จากฐานการท่องเที่ยวที่ต่างกันมาก (คนไทยเที่ยวนอกประเทศปีละ 10 ล้านคน แต่เที่ยวภายในประเทศไทยปีละ 185 ล้านคน/ครั้ง)
ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งส่งเสริมการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองรองมากขึ้น ไม่กระจุกเฉพาะเมืองหลัก รวมถึงวางแผนกระจาย Highlight ของกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ให้ครอบคลุมตลอดช่วงวันหยุดยาวด้วย เพื่อกระตุ้นประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศความคึกคักและกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการ SME ไทยทั่วทุกพื้นที่
นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมด้วยหอการค้าฯ จะมีการยกระดับ Event สงกรานต์ให้เป็น Festival ระดับโลก ตอกย้ำความภาคภูมิใจของไทยที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งสอดคล้องกับ นโยบาย soft power ของรัฐบาล โดยจะมีกิจกรรมมหาสงกรานต์ของประเทศไทยในช่วงนั้น เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ประกอบกับการยกเลิกวีซ่าไทย-จีน และการงดเว้นวีซ่าชั่วคราวให้กับอีกหลายประเทศ เชื่อว่าส่วนนี้จะเป็นโมเมนตั้มสำคัญที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาร่วมเทศกาลปีใหม่ของไทยอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดเพิ่มจากการท่องเที่ยวที่มีวันหยุดเพิ่มเติมอีก 10,000-20,000 ล้านบาท จากปกติช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีเงินสะพัด 130,000-140,000 ล้านบาท รวมเป็น 150,000 ล้านบาท นอกจากนั้นหากมีการจัดโปรโมตงาน festival soft Power เสริมทั้งเดือนเมษายน ทั่วประเทศก็จะสามารถเพิ่มได้อีก 10,000-20,000 ล้านบาท ทบไป เป็น 160,000-170,000 ล้านบาทสำหรับปีนี้
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567