"ส.อ.ท." เดินหน้าจัดงานรวมสุดยอดอุตสาหกรรมไทย FTI EXPO 2025
"ส.อ.ท." ผนึก พันธมิตร จัดงาน FTI EXPO 2025 แนวคิด 4GO "ดิจิทัล นวัตกรรม การขยายตลาดต่างประเทศ" อย่างยั่งยืน ดึงผู้ประกอบโชว์สินค้าและบริการในงานนี้ คาดการณ์ผู้เข้าร่วมงานจากไทยและต่างประเทศ จำนวนกว่า 50,000 ถึง 70,000 ราย สร้างโอกาสทางการค้ากว่า 1,000 ล้านบาท

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าจากการที่ ส.อ.ท. เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เสริมสร้างความเข้มแข็งและผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยให้ยั่งยืน โดยจะร่วมกำหนดนโยบายและวางแผนกับภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ รวมถึงให้ข้อเสนอแนะแก่ภาครัฐในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
โดยในระหว่างปี 2567-2569 นี้ ส.อ.ท. ยังคงเดินหน้าดำเนินตามนโยบาย ONE FTI ที่หลอมรวมความร่วมมือจากกลุ่ม 47 กลุ่มอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด สถาบันภายใต้การกำกับดูแลของ ส.อ.ท. หน่วยงานระหว่างประเทศ และสถาบันการศึกษา เพื่อช่วยกันวางรากฐานและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งยกระดับ SMEs ไปสู่ Smart SMEs ด้วยแนวทาง 4GO ได้แก่
(1)GO Digital & AI สนับสนุนให้ SMEs สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย สร้างความแม่นยำในการประกอบธุรกิจ
(2)GO Innovation ผลักดัน SMEs ที่จิ๋วแต่แจ๋ว ให้เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้มากขึ้นผ่านโครงการกองทุนอินโนเวชั่นวัน และโครงการด้านนวัตกรรมต่างๆ ที่สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
(3)GO Global ผลักดันให้ SMEs สามารถผลิตและส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศในมาตรฐานที่ต่างประเทศยอมรับ สร้างและขยายโอกาสในตลาดต่างประเทศ
(4)GO Green ขับเคลื่อนองค์กรให้สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG และสร้างแต้มต่อในการเลือกใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับการจัดงาน FTI EXPO 2025 งานรวมสุดยอดอุตสาหกรรมไทยที่ ส.อ.ท. ได้จัดขึ้นนั้น เป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมไทย ที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
อีกทั้งงาน FTI EXPO 2025 จะเป็นเวทีในการขยายช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ไทย ผลักดันให้เกิดการค้าการลงทุน เพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดสากล เพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทยและต่างชาติ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 15 มกราคม 2568