สื่อนอกตีข่าว คู่รัก LGBTQ+ แห่จดทะเบียน หลังไทยใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักได้รายงานข่าว คู่รัก LGBTQ+ ชาวไทยหลายร้อยคู่ได้จดทะเบียนสมรส หลังกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 มกราคม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นดินแดนแห่งที่ 3 ในทวีปเอเชียที่ใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ต่อจากเกาะไต้หวันและประเทศเนปาล
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า คาดว่าจะมีคู่รัก LGBTQ+ มากถึง 300 คู่มาจดทะเบียนสมรสที่งานเฉลิมฉลองที่ห้างสรรพสินค้ากลางกรุงเทพมหานคร หลายคนสวมชุดเดรสสีขาวและหลายคนแต่งชุดไทยหรือชุดสูท มาจดทะเบียนสมรสกับคนรัก ขณะที่อีกหลายร้อยคู่จะไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตรอบกรุงเทพฯ
สำนักข่าวเอพียังรายงานอีกว่าประเทศไทยมีชื่อเสียงจากการยอมรับและให้การมีส่วนร่วมแก่ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ งานพาเหรด Bangkok Pride ในแต่ละปีได้ดึงดูดผู้คนรวมถึงชาว LGBTQ+ หลายพันคน แต่ผู้สนับสนุนด้านสิทธิต้องต่อสู้นานหลายสิบปีเพื่อให้มีการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในสังคมไทยที่ส่วนใหญ่มีแนวคิดอนุรักษนิยม และบางคนยังเจอกับการเลือกปฏิบัติในชีวิตประจำวันอยู่บ้าง
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อาคารรัฐสภาของไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองกฎหมายสมรสเท่าเทียมด้วยการติดธงสีรุ้ง และห้างสรรพสินค้าหลายแห่งได้จัดงานเพื่อเฉลิมฉลองการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว Bangkok Pride กลุ่มเคลื่อนไหว LGBTQ+ คาดหวังว่าจะมีคู่รัก LGBTQ+ มาจดทะเบียนสมรส 1,448 คู่ในวันแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งตัวเลข 1,448 นั้นมาจากกฎหมายมาตรา 1448 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือสมรสเท่าเทียม และเพื่อรวบรวมจำนวนคู่สมรสที่มาจดทะเบียนในงานที่จัดขึ้นทั่วประเทศ ส่งไปให้แก่กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดส์ ให้ไทยทำสถิติโลกในสาขาจำนวนคู่รัก LGBTQ+ ที่มาจดทะเบียนสมรสมากที่สุดใน 1 วัน
ด้านนักวิเคราะห์ทางกฎหมายชี้ว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยสร้างโมเมนตัมในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของชาว LGBTQ+ ในไทย แต่กฎระเบียบอื่นๆ เช่นการสร้างครอบครัวที่ได้รับรองทางกฎหมายยังคงเป็นความท้าทายแก่คู่รัก LGBTQ+ เพราะประมวลกฎหมายไทยให้คำจำกัดความของครอบครัวยังคงระบุให้พ่อเป็นผู้ชายและแม่เป็นผู้หญิง
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานการใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยเป็นวันแรก โดยได้สัมภาษณ์คู่รัก LGBTQ+ หลายคู่ ส่วนสำนักข่าวบีบีซีได้เกาะติดรายงานสดการใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยและกิจกรรมต่างๆ ในรอบวัน และตั้งข้อสังเกตว่าประเทศใดในอาเซียนจะเป็นประเทศต่อไปที่จะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยเจาะประเด็นไปที่สังคมของประเทศอาเซียนว่าเป็นอย่างไรและมีโอกาสที่จะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมมากแค่ไหน
เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ของฮ่องกง ได้รายงานการใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย โดยสัมภาษณ์ผู้ที่สนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียมว่าไทยมีบทบาทนำมากขึ้นในเรื่องความหลากหลายทางเพศในขณะที่สหรัฐลดบทบาทตัวเองในเรื่องนี้จากการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สำนักข่าวอัลจาซีราของประเทศกาตาร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้รายงานข่าวการใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทยเช่นกัน ถึงเส้นทางกว่าที่กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในไทยซึ่งเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 23 มกราคม 2568