จีนทุ่ม 2 ล้านล้านบาท! อัดฉีด 4 แบงก์รัฐใหญ่ที่สุด
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบธนาคาร จีนเตรียมอัดฉีดเงินราว 2 ล้านล้านบาท ให้กับ 4 ธนาคารรัฐที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงการคลังของจีนเตรียมอัดฉีดเงิน 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 2 ล้านล้านบาท ให้กับ 4 ธนาคารรัฐที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ผ่านการเสนอขายหุ้น เพื่อเสริมเงินทุนตามที่ได้ให้คำมั่นไว้
ธนาคารที่เข้าร่วมแผนนี้ ได้แก่ Bank of Communications, Bank of China, Postal Savings Bank of China และ China Construction Bank โดยพวกเขามีแผนระดมทุนรวมสูงสุด 520,000 ล้านหยวน ผ่านการออกหุ้นเพิ่มเติมในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ โดยกระทรวงการคลังจีนจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในแผนเพิ่มทุนนี้ โดยจะเข้าซื้อหุ้นเป็นมูลค่ารวม 500,000 ล้านหยวน
ในขณะนี้ จีนกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบธนาคารของตน แม้ว่าธนาคารชั้นนำ 6 แห่งจะมีระดับเงินทุนสูงกว่าข้อกำหนดอยู่แล้วก็ตาม โดยความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายระลอก ซึ่งรวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยและอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
สำหรับธนาคารเหล่านี้ จะออกหุ้นใหม่ในราคาที่สูงกว่าระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่เซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่ 8.8% ถึง 21.5% เพื่อเสริมสร้างเงินกองทุนหลักชั้นที่ 1
ไม่เพียงเท่านั้น กระทรวงการคลังของจีนจะออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษชุดแรกมูลค่า 500,000 ล้านหยวนในปีนี้ เพื่อสนับสนุนการอัดฉีดเงินทุนให้กับ 4 ธนาคารดังกล่าว พร้อมระบุว่า มาตรการนี้จะสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับนักลงทุน
ในการเพิ่มทุนให้กับ 4 ธนาคารที่ประกาศล่าสุด จะใช้โควตาพันธบัตรมูลค่า 500,000 ล้านหยวน ขณะที่การเพิ่มทุนให้กับ Industrial & Commercial Bank of China และ Agricultural Bank of China จะขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลปักกิ่งจะอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมหรือไม่
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของธนาคารขนาดใหญ่ในการให้บริการเศรษฐกิจจริง ช่วยให้พวกเขาสามารถรักษาการเติบโตของสินทรัพย์ที่ค่อนข้างสูง สนับสนุนอุตสาหกรรมเกิดใหม่ และรับมือกับแรงกดดันที่ลดลงจากอัตรากำไร ในช่วงที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย” หวัง เจียน หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการเงินของหลักทรัพย์ Guosen Securities กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์ Bloomberg Intelligence คาดว่า การอัดฉีดเงินครั้งนี้ จะทำให้ผลกำไรต่อหุ้นของธนาคารลดลงในอัตราร้อยละ 4 ถึง 17 ต่อปี พร้อมกับทำให้ผลตอบแทนจากส่วนทุนลดลง
ที่ผ่านมา ธนาคารที่ได้รับการสนับสนุนทางเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กำลังเผชิญกับอัตรากำไรที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ การเติบโตของกำไรที่ชะลอตัว และหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น โดยอัตรากำไรดอกเบี้ยสุทธิของภาคธนาคาร ลดลงเหลือ 1.52% ณ สิ้นปี 2024 ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในการการเสริมทุนที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้ธนาคารสามารถปล่อยการกู้ยืมได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้จีนสามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงิน และควบคุมความเสี่ยง ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับปัญหาภายในประเทศและผลกระทบจากภาษีศุลกากรจากสหรัฐ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 31 มีนาคม 2568