"ทรัมป์" เปิดช่องเจรจาลดภาษี ถ้าได้ดีลที่ใหญ่มากพอ ย้ำภาษีทำให้สหรัฐมีอำนาจเจรจามากขึ้น ทุกประเทศกำลังติดต่อเข้ามา เผยใช้เวลาทั้งวันเจรจากับภาครัฐยันภาคธุรกิจ

 

ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสฯ  ว่า เขายินดีที่จะลดภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) หากประเทศอื่นสามารถ "ยื่นข้อเสนอที่มากพอได้" ซึ่งบ่งชี้ว่าทำเนียบขาวยินดีที่จะเปิดบ้านเจรจา แม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนจะยืนกรานให้เก็บภาษีก็ตาม”

 

ภาษีนำเข้าทำให้เรามีอำนาจในการเจรจามากขึ้น" และเสริมว่า "ทุกประเทศต่างติดต่อมาหาเรา"

 

เมื่อถูกถามว่านั่นหมายความว่าเขากำลังพิจารณาผ่อนปรนหรือไม่ ทรัมป์ กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับสถานการณ์" และ "ถ้ามีคนบอกว่าจะให้บางสิ่งบางอย่างที่ยอดเยี่ยมกับเรา ตราบใดที่สิ่งที่เขาให้นั้นดีกับเรา" 

 

ทรัมป์กล่าวเรื่องนี้บนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน โดยส่วนใหญ่เป็นการปกป้องมาตรการภาษีนำเข้าของเขาที่ประกาศไปเมื่อวันก่อน แม้ว่าจะทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำทั่วโลกก็ตาม โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐที่ 3 ดัชนีหลักร่วงมากกว่า 4% หนักสุดตั้งแต่ช่วงโควิดปี 2020 และฉุดมูลค่าหายวับกว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ทรัมป์ยังคงเชื่อมั่นในแนวทางนี้ และกล่าวว่า เขายินดีที่อัตราดอกเบี้ย(บอนด์ยีลด์)ลดลง  และเชื่อว่าความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจจะคลี่คลาย

 

ปธน.สหรัฐยังคงเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจะกลับมาเฟื่องฟู เพียงแต่ต้องให้เวลาสักหน่อย และยังชี้ถึงด้านบวกของราคาพลังงานที่ถูกลง และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงจากพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ลดลงต่ำกว่า 4% 

“สิ่งหนึ่งที่ผมชอบคือ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เหมือนกับราคาอาหารสดที่ลดลง” เขากล่าว “ผมชอบที่ราคาไข่ถูกลง และที่สำคัญมากคือ ราคาน้ำมันก็กำลังลดลงด้วย”

 

สำหรับกรณีของ "จีน" นั้น ทรัมป์ย้ำเป็นการเฉพาะว่าเขายินดีที่จะเสนอการผ่อนปรนภาษีสำหรับจีน หากปักกิ่งอนุมัติการขายกิจการแอปวิดีโอโซเชียล TikTok ของบริษัท ByteDance Ltd. ในสหรัฐ ซึ่งบริการดังกล่าวกำลังเผชิญกับกำหนดเส้นตายในวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.68 นี้สำหรับการถอนการลงทุน เว้นแต่ทรัมป์จะเสนอขยายเวลาออกไปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการไกล่เกลี่ยข้อตกลง

 

"ใกล้จะมีการบรรลุข้อตกลงได้แล้ว" ทรัมป์ กล่าว

 

"ผมคิดว่าจีนอาจโทรศัพท์มาบอกว่า 'เราไม่พอใจภาษีศุลกากร' และบางทีพวกเขาอาจต้องทำอะไรบางอย่างเล็กน้อยเพื่อให้ TikTok ได้รับการอนุมัติ" แต่ก็เปรยด้วยว่าเขา "ไม่รู้" ว่าปักกิ่งจะใช้วิธีการนั้นหรือไม่

 

ทรัมป์ยังเปิดเผยด้วยว่า เขาใช้เวลาทั้งวันในการสนทนากับรัฐบาลต่างประเทศ และผู้นำภาคธุรกิจเพื่อขอผ่อนปรนภาษี โดยเขาได้พูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายคนในวันพฤหัสบดี รวมถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลด้วย ซึ่งทรัมป์ กล่าวว่า อาจจะเดินทางเยือนสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดยอิสราเอลถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 17% ส่วนสหราชอาณาจักรก็น่าจะพอใจที่โดนภาษีแค่ 10% ในขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) ถูกเก็บ 20%

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 4 เมษายน 2568