จับชีพจร" เศรษฐกิจไทย" รายภาค "ลงทุน-อสังหาฯ" ชะงัก จ้างงาน "ทรง-ทรุด"
จากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวลากยาว กระทบต่อภาคธุรกิจและภาคแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างที่เผชิญการว่างงานอย่างหนัก หลังโครงการก่อสร้างภาคเอกชนหดตัวแรง
วงการธุรกิจก่อสร้างภาพรวม สะท้อนว่า ปัจจุบันผู้รับเหมางานในมือน้อยลงมาก โดยเฉพาะงานของภาคเอกชน ธุรกิจอสังหาฯชะลอตัว กระทบสภาพคล่องอย่างหนักเนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยกู้ ยิ่งเกิดเหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ทำให้สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ผู้รับเหมา ส่วนหน่วยงานราชการไม่ให้เบิกล่วงหน้า 10-15% เพราะกังวลจะนำเงินใช้จ่ายอย่างอื่น
ลิซ่า งามตระกูลพานิช นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า หากแบงก์ยังไม่ปล่อยกู้ผู้รับเหมาจะตายกันทั้งระบบ โดยเฉพาะรายกลาง รายเล็ก ขณะนี้ปัญหาของผู้รับเหมา คือ งานรัฐยังมี แต่ไม่มากและราคากลางต่ำ งานเอกชนน้อยลง ตามเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปีถึงจะฟื้นตัว
นักธุรกิจอสังหาฯ สุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุว่า ขณะนี้แรงงานก่อสร้างไม่ขาดแคลน เพราะตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ผู้ประกอบการลดลงทุนโครงการใหม่ ประกอบกับใช้โครงสร้างสำเร็จรูปก่อสร้างมากขึ้น และจากงานที่น้อยลงทำให้แรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างชาติเปลี่ยนไปทำงานอื่น เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ดูแลผู้สูงอายุ แม่บ้าน โรงงาน ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯขยายไลน์ไปธุรกิจรับสร้างบ้าน
“แรงงานที่ขาด เป็นช่างซ่อมตึกสูง คอนโด หลังแผ่นดินไหว มีความต้องการมาก ต้องรอคิวหลายเดือน ซึ่งได้โยกแรงงานจากแนวราบไปช่วยสำหรับงานที่ไม่ใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน หากยังไม่พอ อาจต้องขอให้จ้างแรงงานข้ามจังหวัดได้” สุนทรกล่าว
ขณะที่ พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า แรงงานก่อสร้างไม่ขาดแคลน เพราะตลาดอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัว เศรษฐกิจไม่ดีผู้ประกอบการเน้นระบายสต๊อก สร้างโครงการเก่าให้จบ เปิดโครงการใหม่น้อยลงกว่า 50% และมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อโครงการ ขณะที่ตลาดหุ้นกู้นักลงทุนก็ขาดความเชื่อมั่น
สอดคล้องกับรายงานสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 2568 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้สำรวจความคิดเห็นภาคธุรกิจรายภาค เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เริ่มจากธุรกิจ “ภาคเหนือ” ขยายตัวเล็กน้อยจากธุรกิจบริการและท่องเที่ยว ที่จำนวนเที่ยวบินและจัดกิจกรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้น หมอกควันมาช้า จึงดึงดูดนักท่องเที่ยว แม้การค้าหดตัวตามกำลังซื้อที่ลดลง โดยเฉพาะเกษตรกร รวมถึงธุรกิจอสังหาฯ ที่ฟื้นตัวช้า สถาบันการเงินระมัดระวังการให้สินเชื่อ ทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อกลุ่มต่ำ 3 ล้านบาทและลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ
ส่งผลธุรกิจก่อสร้างเอกชนหดตัว แต่ธุรกิจที่ยังขยายตัวเป็นการก่อสร้างภาครัฐที่งานเพิ่มขึ้นตามงบประมาณ ขณะที่การจ้างงานทรงตัว ไม่มีจ้างแรงงานเพิ่ม ทั้งธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว อสังหาฯ การค้า รถยนต์ การผลิต ด้านลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งอสังหาฯ ชะลอเปิดโครงการ ยกเว้นแนวราบราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปและแนวสูงในเมืองหลักที่ยังมีความต้องการซื้อในกลุ่มคนไทยรายได้สูง ธุรกิจที่ยังลงทุนเพิ่ม เช่น ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ โรงแรมทั้งสร้างใหม่และซื้อมาปรับปรุง
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” หดตัวเล็กน้อยจากธุรกิจการค้าและอสังหาฯ ตามกำลังซื้อที่ลดลง มาตรการกระตุ้นการบริโภคมีผลจำกัด ธุรกิจผลิตเพื่อส่งออกได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเล็กน้อย เช่น สินค้าเกษตรแปรรูป ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัว สต๊อกอยู่ในระดับสูง ยอดจองลดลงต่อเนื่อง ลูกค้ากังวลความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า แต่ธุรกิจก่อสร้างภาครัฐยังขยายตัว จากการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐ
ทั้งนี้ มี 3 ข้อสังเกต 1.ลูกค้ารายได้ปานกลางและรายได้น้อย บางส่วนชะลอซื้อบ้านมือหนึ่งไม่เกิน 5 ล้านบาทต้องขายซ้ำ 2-3 ครั้งถึงขายได้ 2.ลูกค้าสนใจบ้านไม่จัดสรร บ้านสร้างเอง บ้านมือสองมากขึ้น เพราะราคาต่ำกว่าบ้านจัดสรร และ 3.ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างหลายรายหันมารับงานภาครัฐชดเชยรายได้ชะลอตัว
ภาพรวมการจ้างงานลดลงโดยเฉพาะการค้ารถยนต์และห้างสรรพสินค้าที่ลดดลงตามยอดขาย ไม่จ้างแรงงานเพิ่ม ด้านการลงทุนทรงตัว ธุรกิจส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนขนาดใหญ่ แต่มีรายใหญ่บางรายที่ลงทุน เช่น ธุรกิจการค้า บริการ ท่องเที่ยว โรงแรมขนาดใหญ่ ส่วนอสังหาฯ ชะลอลงทุนโครงการราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท
“ภาคกลาง” ขยายตัวจากธุรกิจผลิตเพื่อส่งออกที่ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มและธุรกิจท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ไม่รวมจีน) มากขึ้น ขณะที่ธุรกิจการค้าทรงตัว ธุรกิจก่อสร้างถูกกดดันจากธุรกิจอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัวตามกำลังซื้อ การระมัดระวังใช้จ่ายของลูกค้ารายได้ปานกลางค่อนสูง ยอดขายหดตัวทุกราคา สถาบันการเงินยังระมัดระวังการให้สินเชื่อ อัตราการปฏิเสธสินเชื่อทรงตัวระดับสูง งานก่อสร้างลดตามการชะลอเปิดโครงการใหม่ เนื่องจากสต๊อกยังอยู่ระดับสูง ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน
“ภาคใต้” ขยายตัวเล็กน้อยจากธุรกิจบริการและท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและธุรกิจผลิตเพื่อส่งออก เช่น ยางพาราแปรรูป ที่รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ หดตัวตามยอดขายในเกือบทุกพื้นที่และราคา จากภาระหนี้ที่สูงขึ้น การผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น สถาบันการเงินระมัดระวังการให้สินเชื่อ ผู้ประกอบการจึงปรับตัว ชะลอเปิดโครงการใหม่ ทยอยสร้างตามสภาพคล่อง
รวมถึงให้เช่าหรือให้ลูกค้าผ่อนตรงกับโครงการ จัดโปรโมชั่นมากขึ้น แต่ยกเว้นในพื้นที่ท่องเที่ยวที่ยอดขายยังขยายตัวได้ อาทิ ภูเก็ต แต่ก็ชะลอลง เพราะลูกค้าต่างชาติเร่งซื้อไปมากแล้วและเริ่มเห็นเปิดโครงการพูลวิลลาราคาสูงเน้นลูกค้าต่างชาติกำลังซื้อสูง ในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
ภาพการจ้างงานทรงตัวทั้งธุรกิจการผลิต การค้า อสังหาฯยกเว้นบริการ ท่องเที่ยวที่จ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากธุรกิจเปิดใหม่ เช่น ร้านอาหาร สปา ในเมืองท่องเที่ยว ส่วนธุรกิจโรงแรมเน้นให้ทำงานหลายหน้าที่ จ้างชั่วคราวเฉพาะช่วงมีงาน ส่วนใหญ่ไม่ขาดแคลนแรงงาน ยกเว้นแรงงานที่มีทักษะด้านภาษาในธุรกิจบริการและท่องเที่ยว เนื่องจากแรงงานเลือกไปทำงานในเมืองหลักที่ให้อัตราค่าจ้างสูงกว่า
ส่วนการลงทุนขยายตัวเล็กน้อยจากธุรกิจบริการและท่องเที่ยว ที่เปิดใหม่และปรับปรุงกิจการ รวมถึงก่อสร้างโรมแรมขนาดเล็กเพิ่มขึ้นในเมืองรองบางจังหวัด ขณะที่ธุรกิจการผลิตส่วนใหญ่ใช้เงินทุนปรับปรุงโรงงานและซ่อมแซมเครื่องจักรตามรอบ ด้านอสังหาฯ ยังระมัดระวังการลงทุนและแบ่งเฟสทยอยก่อสร้าง
สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/2568 ขยายตัวตามการเร่งส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นจีน ส่วนปัจจัยต้องจับตา ผลกระทบจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐ ความกังวลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ผลกระทบแผ่นดินไหวมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ภาคบริการ และอสังหาฯ เช่น เงิน 10,000 บาทเฟส 3 เราเที่ยวด้วยกัน การผ่อนคลาย LTV การลดค่าโอนและจดจำนอง
ส่วนภาพรวมจะเป็นอย่างไร คงต้องลุ้นกันต่อ!
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568