เปิดท่าที "ผู้นำโลก" ต่อความขัดแย้ง อิสราเอล - อิหร่าน
ขณะที่ "อิสราเอล และอิหร่าน" ขู่โจมตีระหว่างกันรุนแรงเพิ่มขึ้น ผู้นำโลกประสานเสียงเรียกร้องทั้งสองฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ท่ามกลางความกลัวอาจขยายวงความขัดแย้ง
บรรดาผู้นำโลกและเจ้าหน้าที่ระดับสูง เรียกร้องให้อิสราเอลและอิหร่าน ยุติสงคราม ขณะที่ศัตรูคู่อาฆาตนี้ ยังคงเปิดฉากโจมตีอย่างหนักหน่วงเป็นวันที่สอง
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวอ้างเมื่อวันเสาร์ (14 มิ.ย.) ว่า เพราะการโจมตีของอิสราเอลต่อโครงสร้างพื้นฐานของอิหร่าน มีผลให้โครงการนิวเคลียร์ล่าช้าไปหลายปี พร้อมกันนี้ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากทั่วโลกที่ขอให้ใช้ความยับยั้งช่างใจ
“เราจะโจมตีทุกไซต์ และทุกเป้าหมายของระบบปกครองอายาตอลเลาะห์ รวมไปถึงสิ่งที่พวกเขารู้สึก ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถเทียบได้เลย กับสิ่งที่พวกเขาจะต้องเผชิญในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เนทันยาฮูกล่าวทางวิดีโอ
การโจมตีที่เกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้โจมตีฐานทัพและโรงงานนิวเคลียร์มากกว่า 200 แห่ง ส่งผลให้ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน นักวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ เสียชีวิต
ตามมาด้วย อิหร่านโจมตีตอบโต้กลับอย่างรุนแรงในคืนวันศุกร์ และตลอดคืนวันเสาร์ โดยมีเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นทั่วอิสราเอล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยไกลประมาณ 200 ลูก รวมกัน 4 ระลอก
ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ออกโรงเตือนเมื่อวันเสาร์ว่า “จะตอบโต้ทวีความรุนแรงมากขึ้น” หากอิสราเอลยังคงโจมตีต่อไป
ท่ามกลางความตึงเครียดเพิ่ม ผู้นำโลก ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอิหร่าน และอิสราเอล เพราะหวั่นเกรงอาจเกิดสงครามในระดับภูมิภาค
นี่เป็นส่วนหนึ่งท่าทีจากผู้นำโลก ต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และอิหร่าน ในปัจจุบัน
สหรัฐ :
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยูเครน โดยทรัมป์แสดงความรู้สึก “สงครามอิสราเอล และอิหร่านควรยุติลง” ตามที่ได้โพสต์ในโซเชียลมีเดีย
ก่อนหน้านี้ ยูริ อุชาคอฟ บุคคลสำคัญของเครมลิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปูตินได้พูดคุยกับทรัมป์และประณามการโจมตีอิหร่านของอิสราเอล โดยปูติน "แสดงความกังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น จะส่งผลไม่อาจคาดเดาสถานการณ์ทั้งหมดในตะวันออกกลาง" อุชาคอฟกล่าว
นอกจากนี้ อุชาคอฟเผยว่า ทรัมป์กล่าวถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางปัจจุบัน “น่าตกใจมาก” ถึงอย่างไรนั้น ผู้นำทั้งสองยังไม่ตัดความเป็นไปได้ จะกลับมาร่วม เจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
จีน :
หวัง อี้ รัฐมนตรีประเทศจีนได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน และรัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แต่เนื้อหาการพูดคุยระหว่างกันนั้น กลับเป็นเครื่องบ่งชี้ ปักกิ่งสนับสนุนเตหะราน
หวัง อี้ กล่าวกับอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านว่า “ปักกิ่ง สนับสนุนอิหร่านในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรม และรับรองความปลอดภัยของประชาชน" ตามแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีน
“การกระทำของอิสราเอล ละเมิดบรรทัดฐานขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเสริมว่าการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ ได้สร้างบรรทัดฐานที่สุ่มเสี่ยงอาจก่อให้เกิดหายนะตามมา" หวัง อี้ กล่าวกับอารักชี
ขณะที่การสนทนาของหวัง ปี้ กับนายกีเดียน ซาอาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลนั้น ได้แสดงความเห็นว่า การโจมตีอิหร่านของอิสราเอลนั้น “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
“ยังไม่มีการนำแนวทางการทูตมาแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน และยังคงมีความหวังจะแก้ปัญหาอย่างสันติ เพราะการใช้กำลังไม่สามารถนำมาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนได้” หวัง อี้กล่าว พร้อมเสริมว่า ปักกิ่งยินดีที่จะมีบทบาทในการลดระดับความขัดแย้ง
สหราชอาณาจักร :
นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า อังกฤษเตรียมเคลื่อนย้ายทรัพยากรทางทหาร รวมถึงเครื่องบินขับไล่ ไปยังตะวันออกกลางเพื่อส่งไปสนับสนุนสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วภูมิภาค
เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า "ตกใจ" กับการโจมตีเมื่อช่วงกลางดึก "ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในอิสราเอล" "เราต้องลดระดับความรุนแรงโดยด่วน และป้องกันไม่ให้พลเรือนได้รับอันตรายเพิ่มเติม" ซึ่งแลมมีได้โพสต์ทาง X และเสริมว่า ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน "เพื่อเรียกร้องให้สงบลง"
ซาอุดีอาระเบีย :
สำนักข่าว IRNA รายงานว่า ประธานาธิบดีเปเซชเคียนได้โทรศัพท์พูดคุยกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่สำนักข่าวทางการซาอุดีอาระเบียได้ยืนยันเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน ได้พยายามเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค แต่ไซออนิสต์ได้เข้ามาก่อกวนและทำลายล้างทุกพื้นที่ที่เราต้องการดำเนินการบรรลุบางอย่าง” ประธานาธิบดีเปเซชเคียนระบุ
มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า “ซาอุฯ ประณามการโจมตีที่ยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากบ่อนทำลายอธิปไตย และความมั่นคงของอิหร่าน”
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างริยาดและเตหะรานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศตกลงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2023 หลังขัดแย้งกันมานานหลายปี
เยอรมนี :
นายโยฮันน์ วาเดอฟูล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี กล่าวกับนายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย และเตือนว่า มีความเสี่ยงเกิด “สถานการณ์จะตึงเครียดมากขึ้น” โดยระบุ “โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านไม่เพียงคุกคามอิสราเอลเท่านั้น แต่ยังคุกคามซาอุดีอาระเบียและเสถียรภาพโดยรวมของภูมิภาคด้วย
ดังนั้นประเทศต่างๆ ควรมีเป้าหมายชัดเจนร่วมกันคือ การป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ โดยเยอรมนีมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ เพื่อลดความตึงเครียด”
ฝรั่งเศส :
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เผยได้พูดคุยกับประธานาธิบดีอิหร่าน และเรียกร้องให้ดูแล "สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสและพลเมืองในอิหร่าน รวมถึงในภูมิภาค ต้องไม่เป็นเป้าหมายไม่ว่าในกรณีใดๆ" พร้อมกันนี้ "ยังเรียกร้องให้ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับความรุนแรง ซึ่งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านถือเป็นปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และต้องได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจา" มาครงโพสต์บน X
วาติกัน
สมเด็จพระสันตปาปาเลโอที่ 14 ทรงเรียกร้องให้อิสราเอล และอิหร่าน แสดงความรับผิดชอบและมีเหตุผลมีผล
“สถานการณ์ในอิหร่านและอิสราเอล ถดถอยลงอย่างมากในช่วงเวลาอันละเอียดอ่อนนี้ จึงปรารถนาเรียกร้องความรับผิดชอบ และความมีเหตุผล” พระสันตปาปาตรัสในแถลงการณ์ระบุ “พันธสัญญาที่จะสร้างโลกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และปราศจากภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ต้องดำเนินต่อไป ผ่านการหารือด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน และการสนทนาอย่างจริงใจ” พระองค์ตรัส
“ไม่ควรมีใครคุกคาม การมีชีวิตอยู่ของอีกฝ่าย” สมเด็จพระสันตปาปาเลโอที่ 14 ตรัสย้ำ
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 15 มิถุนายน 2568