"ท่องเที่ยวญี่ปุ่น" ทุบสถิติเดือน พ.ค. 3.6 ล้านคน นักท่องเที่ยวจีนเพิ่ม 45%
จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นทำสถิติใหม่ โดยส่วนมากเป็นชาวเกาหลีใต้และจีน ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงน้อยลง เนื่องจากข่าวลือว่า "ญี่ปุ่น" จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้
จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 21.5% ในรอบปี สร้างสถิติใหม่ในเดือนพ.ค.ที่ 3,693,300 คน ส่วนมากเป็นผู้เดินทางมาจากเกาหลีใต้และจีน ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงลดน้อยลง เนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่น (JNTO) เผยแพร่ตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือนพ.ค. ในวันพุธ (18 มิ.ย.) ซึ่งน้อยกว่ายอดเดือนเม.ย. ที่มีจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศอยู่ที่ 3,908,900 คน ในขณะที่ยอดโดยรวมตั้งแต่เดือน ม.ค. อยู่ที่ประมาณ 18 ล้านคน และคาดว่านักท่องเที่ยวอาจสูงถึง 40 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้
เมื่อแยกตามภูมิภาคแล้วพบว่า เกาหลีใต้มีผู้เดินทางเข้าญี่ปุ่นมากที่สุดที่ 825,800 คน ถือว่าเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 11.8% ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นทางการบินใหม่ เช่น เที่ยวบินระหว่างเกาหลีใต้และเมืองโอบิฮิโระบนเกาะฮอกไกโด ตามมาด้วยจีน ที่มีผู้เดินทางเข้าญี่ปุ่น 789,900 คน เพิ่มจากปีที่แล้ว 44.8%
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงกลับลดลง 11.2% เหลือเพียง 193,100 คนเท่านั้น ซึ่งฮ่องกงเป็นภูมิภาคเดียวในข้อมูลของ JNTO ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี คาดว่าข่าวลือที่แพร่หลายโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียว่า ญี่ปุ่นจะเกิดภัยพิบัติคร้งใหญ่ในเวลาอันใกล้ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งไม่กล้าเดินทางเข้าประเทศ แม้ว่าก่อนหน้านี้ในเดือนเม.ย. นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงจะเพิ่มขึ้น 42.9% ก็ตาม
ข้อมูลจากสนามบินคันไซเผยว่า ปัจจุบันในเดือนมิ.ย. มีเที่ยวบินจากฮ่องกงไปสนามบินคันไซถูกยกเลิกกว่า 62 เที่ยวบิน คิดเป็น 10% ของเที่ยวบินในเส้นทางนี้ทั้งหมด
ทางด้านสนามบินเซ็นได จังหวัดมิยากิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น พบว่า มีสายการบินสองแห่งแล้วที่เริ่มลดจำนวนหรือยกเลิกเที่ยวบินจากฮ่องกงตั้งแต่เดือนพ.ค. และคาดการณ์ว่า สถานการณ์จะเป็นแบบนี้ต่อไปจนถึงเดือน ต.ค.
นาโอยะ ฮิไรคาวะ กรรมการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันพุธ (18 มิ.ย.) ว่าทางสำนักงานจะจับตาดูแนวโน้มต่อไปอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงตลาดจากภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากฮ่องกงด้วย และจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมตามความจำเป็น
ด้านสำนักงาน JNTO ในฮ่องกงได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียของตัวเองเป็นภาษาจีน เรียกร้องให้ผู้คนเลือกเสพข้อมูลจากสถาบันที่มีหลักฐานทางวิทย์ศาสตร์อ้างอิงอยู่เท่านั้น
หากตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้ทะลุ 40 ล้านคนจริงจะถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของญี่ปุ่น แต่ความกังวลด้านเศรษฐกิจโลกที่อาจถดถอยเพราะนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้การคาดการณ์ตัวเลขในอนาคตที่ชัดเจนเป็นไปได้ยาก
ปัจจุบัน เงินเยนมีอัตราการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 144 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.43 เยนต่อ 1 บาท) นอกจากนี้ ยอดขายสินค้าปลอดภาษีในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ยังมีแนวโน้มลดลงอีกด้วย
ยาโยอิ ซาคะนากะ จากบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ Mizuho Research & Technologies กล่าวว่า การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเนื่องจาก “จำนวนโรงแรมในกรุงโตเกียว โอซากา เกียวโต และในเมืองอื่นๆ ไม่เพียงพอ” รวมถึงนักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ค่อยคุ้มค่าเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นเนื่องจากเงินเยนแข็งค่ามากขึ้น
ที่มา กรุงเทพธุุรกิจ
วันที่ 19 มิถุนายน 2568