3 ฉากทัศน์ ขั้วอำนาจโลก ในอนาคต 20 ปี ที่ไม่เหมือนเดิม
ศูนย์อนาคตศึกษา ฉายภาพ 3 ฉากทัศน์ ขั้วอำนาจโลก ในอนาคต 20ปี ที่ไม่เหมือนเดิม ประเทศไทยต้องเผชิญกับอะไรบ้าง แนวทางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองกับโลก รักษาผลประโยชน์ชาติ
ในปัจจุบันที่โลกมีการแข่งขันสูง รวมถึงการขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจ เพื่อครองความเป็นผู้นำในทุกมิติ นานาประเทศทั่วโลกล้วนต้องวางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ต้องรักษาสมดุลเชิงรุก ไม่เลือกข้างมหาอำนาจ พร้อมสร้างความเข้มแข็ง และอำนาจต่อรองทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคให้เกิดขึ้น
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้เผยแพร่ บทวิเคราะห์ของศูนย์อนาคตศึกษา ถึงความเป็นไปได้ ของโครงสร้างขั้วอำนาจโลกในอีก 20ปีข้างหน้า ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันได้ถึง 3 ฉากทัศน์ ในระบบระหว่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการกำหนดระเบียบโลก (world order) และทิศทางการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมโลก ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร เทคโนโลยี และสังคม-วัฒนธรรม
ยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในปัจจุบัน ทำให้หลายประเทศ ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านจากการแข่งขันของ 2 มหาอำนาจที่เกิดขึ้น จึงนำมาสู่การเร่งสะสมกำลังอำนาจ และส่งเสริมสถานะของประเทศตนเอง ทั้งรัสเซีย ประเทศในสหภาพยุโรป (European Union-EU) สหราชอาณาจักร อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
ในปี 2583 ศูนย์อนาคตศึกษา วิเคราะห์โครงสร้างขั้วอำนาจโลกที่เป็นไปได้ถึง 3 ฉากทัศน์ จากปัจจัยต่างๆเช่น ประเทศมหาอำนาจส่งเสริมความร่วมมือในวงจํากัดมากขึ้น ,การสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบเฉพาะกลุ่ม ,การถ่ายทอดเทคโนโลยีในกลุ่มพันธมิตร ,การแข่งขันทางการทหาร ,ความเสื่อมถอยขององค์การระหว่างประเทศ เป็นต้น
5 ตัวแสดงหลัก ในโครงสร้างขั้วอำนาจโลกปี 2583 (Global Powers in 2040)ได้แก่
1. ประเทศมหาอำนาจ เป็นศูนย์กลาง
2. ประเทศที่มีกำลังอำนาจในระดับกลาง
3. ประเทศขนาดเล็ก
4. กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ
5. ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ
ฉายภาพ 3 ฉากทัศน์
ฉากทัศน์ที่ 1 A World with Two Systems โลกแบ่งเป็น 2 ขั้ว อำนาจ :
ขั้วที่ 1 คือขั้วกลุ่มประเทศเสรีนิยมประชาธิปไตย นำโดยประเทศสหรัฐฯ โดยมีสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย สหราชราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เป็นพันธมิตร และหุ้นส่วนความร่วมมือเหนียวแน่น โดยสหรัฐฯ มุ่งเสริมสร้าง ความเข้มแข็งผ่านกรอบความร่วมมือพหุภาคี ขนาดเล็กในทุกภูมิภาค
ขั้วที่ 2 คือขั้วกลุ่มประเทศอำนาจนิยม นำโดย ประเทศจีน และความร่วมมือจากประเทศคู่ขัดแย้งกับสหรัฐฯ เช่น รัสเซีย อิหร่าน และ เกาหลีเหนือ เพื่อต่อต้าน สหรัฐฯเป็นหลัก โดยเป็นการรวมกลุ่มอย่างไม่เหนียวแน่น
ฉากทัศน์ที่ 2 Fragmented World โลกแบ่งเป็นหลายขั้วอำนาจ :
เป็นการจับกลุ่มของประเทศต่าง ๆ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันในแต่ละด้าน โดยไม่ยึดอุดมการณ์ทางการเมือง ทำให้การดำเนินความสัมพันธ์เป็นแบบทั้งแข่งขัน และร่วมมือควบคู่กัน ประเทศที่มีศักยภาพสูงจับกลุ่มกันเพื่อเพิ่มพูนกําลังอำนาจ จนสามารถต่อรอง และคานอิทธิพลกับประเทศมหาอำนาจได้
กลุ่มความร่วมมือระดับภูมิภาคมีบทบาทมากขึ้น ในการดูแลผลประโยชน์ในภูมิภาค เกิดกลุ่มความร่วมมือขนาดเล็กมากกว่า จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ด้านประเทศมหาอำนาจ แม้มีบทบาทนำ แต่ไม่สามารถกำหนดทิศทาง และวางระเบียบระหว่างประเทศอย่างเบ็ดเสร็จได้ในทุกเรื่อง
ฉากทัศน์ที่ 3 Global Condominium of Power โลกประกอบด้วย ตัวแสดงหลากหลาย :
ผู้ที่มีบทบาท และอิทธิพลต่อโลก มีความแตกต่างลดหลั่นกันไป ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ เช่น สหรัฐฯ เป็นขั้วอำนาจหลักทางทหาร ,จีน เป็นขั้วอำนาจหลักทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ส่วนบริษัทเอกชนข้ามชาติ และบริษัทเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น
ระบบระหว่างประเทศเกิดการถ่วงดุลอำนาจ (balance of power) มีกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น บราซิล เม็กซิโก อินโดนีเซีย และตุรกี เกิดการคานอิทธิพลและมีปฏิสัมพันธ์กัน อย่างซับซ้อนทั้งในลักษณะการแข่งขัน และร่วมมือบนพื้นฐานของผลประโยชน์ ทำให้ไม่มีประเทศ หรือองค์กรมีอำนาจผูกขาดการชี้นำทิศทางโลกแบบเบ็ดเสร็จ มีการเปิดพื้นที่ ให้กับตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐมากขึ้น
บทบาทของต่างชาติต่อไทย :
ภาคเหนือ
ประเทศสหรัฐฯ และประเทศจีน ต่างแข่งขันด้านอิทธิพลมากขึ้น และเกี่ยวพันกับสถานการณ์ในเมียนมา อาจมีการแทรกแซงหน่วยงานระดับภูมิภาค และท้องถิ่น โดยสหรัฐฯจะมีบทบาทนำด้านความมั่นคง ในขณะที่จีนจะมีบทบาทนำด้าน เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เกิดการแข่งขันในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดย สหรัฐฯ อาจมีการจัดตั้งสถานที่ด้านความมั่นคง และสนับสนุนภาคประชาสังคม ในขณะที่โครงการเศรษฐกิจของจีนตามแนวชายแดน มีการขยายตัวมากขึ้น
ภาคกลาง
ขั้วอำนาจปรับตัวตามแนวโน้มของโลก กลุ่มคนไทยมีการแบ่งแยกความคิดทางการเมือง แบ่งเป็นฝ่ายโลกเสรีนำโดยสหรัฐฯ และฝ่ายอำนาจนิยมนำโดยจีน
ภาคใต้
ต่างประเทศมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ด้านภาครัฐเน้นลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่ต่างชาติสนใจ เช่น Land Bridge ,คลองไทย รวมถึงการกำหนดมาตรฐานด้านประมง
ชายแดนภาคใต้
ประเทศตะวันตกเข้ามาแสดงบทบาทผ่าน NGOs ด้านประเทศตะวันออกกลางมุ่งเข้ามาแข่งขันด้าน Soft Power
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566